จากปรัชญาสู่ตราบาปเรื่องที่จะกล่าวถึงมันคงเป็นตราบาปและร่องรอยความทรงจำของผมตลอดไปยาใจ เธอ อายุ 36 ปี มีสามีเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง มีลูกด้วยกันสองคน เธอเป็นผู้หญิงที่เกิดมาพร้อมกับสัดส่วน 37 28 39 จึงเป็นที่พึงใจแก่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่พบเห็น แม้ลูกคนโตของเธอจะเรียนประถมปีที่หกแล้ว แต่รูปร่างเธอยังคงดีและขาวสะอาดเพราะเธอเคยเป็นช่างเสริมสวย ผมรู้จักเธอที่มหาลัย เพราะเธอมาเรียนในระดับ ป.ตรี ภาคพิเศษ ในห้องที่เธอเรียนนักศึกษาส่วนใหญ่จึงเป็นคนมีครอบครัว มีหน้าที่การงาน ผมอายุ 32 เป็นคนหนึ่งที่ได้เข้าไปบรรยายวิชาเกี่ยวกับปรัชญาในห้องเรียนของเธอ ผมเพิ่งได้มีโอกาสเข้าไปบรรยายในห้องเธอเมื่อเทอมสองของปี 2551 แรก ๆ ก็ไม่มีอะไรนะ แต่หลัง ๆ เธอมีคำถามให้ผมตอบก่อนเลิกเรียนเสมอ หลังจากนั้นเธอก็ขอเบอร์โทร.ของผม ผมก็ไม่คิดอะไรมากไปกว่านักศึกษาคนหนึ่งที่สนใจในการเรียน พอเราพบกันบ่อยเข้า เธอมักจะมีของฝากหรืออาหารกลางวันมาให้ผมที่โต๊ะทำงานเสมอ ระหว่างนั้นก็รับรู้จากเธอว่า มีผู้ชายที่เรียนในห้องเดียวกันมาติดพันเธอหลายคนทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเธอมีครอบครัวแล้ว บางคนถึงกับยอมซื้อแหวนเพชรและของมีค่าหรือแม้กระทั่งรถเก๋งดี ๆ สักคันให้เธอได้ หากเธอต้องการ แต่เธอก็สนิทกับผมมากขึ้นทุกวันในระหว่างที่เราได้พบกันในห้องเรียนหรือห้อง ทำงานของผม มีครั้งหนึ่งเธออยากไปหาผมที่หอพักโดยอ้างว่าจะไปขอยืมหนังสือ ซึ่งผมก็ยอมให้เธอไปหาที่ห้องพัก และยอมรับว่าชอบเธอขึ้นมาบ้างแล้ว เพราะเธอพูดเพราะนิสัยดี เอาใจเก่ง ที่สำคัญเธอบอกว่ารักผมเพราะผมเข้าใจเธอและคุยกับเธอได้ทุกเรื่องเป็นที่ ปรึกษาเธอได้ ครั้งแรกที่เธอไปหาผมที่ห้อง เธอพาหลานสาวไปด้วย แต่ให้รออยู่ในรถเก๋งสีแดงของเธอ ส่วนเธอก็เข้าไปนั่งในห้องทำงานผมเธอซื้อส้มมาฝากแกะส้มป้อนผมและก็ให้ผม ป้อนเธอบ้าง เธออยู่ไม่นานนักก็กลับ ดกดึกเธอก็โทรหาผมว่าจะไปหาที่ห้องพักอีกได้รึเปล่า ผมก็ไม่ปฏิเสธ และแล้วเธอก็มาคนเดียว เราอยู่กันสองคนในห้องทำงานของผม ซึ่งมันเป็นห้องสมุดไปด้วย เราคุยกันสักพักเธอก็บอกว่าง่วงและเอนหลังกับโต๊ะทำงานแล้วก็หลับตาพริ้ม อย่างนั้น ผมจ้องเธอตั้งแต่เท้าจรดหัว มองไปที่ริมฝีปากเล็ก ๆ น่าจูบของเธอ จนผมมารู้ตัวอีกทีปากผมก็จูบที่ปากของเธอแย่ลิ้นเข้าไปในปากเธอ เธอตอบสนองด้วยการตวัดลิ้นตอบและโอบแขนที่ท้ายทอยผม มือเธอไล้ไปตามใบหูและตีนผมระเรื่อยลงไปจนถึงแผ่นหลังอย่างมีชั้นเชิง พอถอนปากออกจากกัน ผมก็บอกเธอว่า คิดถึง ซึ่งเป็นคำแรกที่บอกเธอตั้งแต่คบกันมา หลังจากนั้นรู้ตัวว่าเรายืนขึ้นและต่างฝ่ายก็ถอดเสื้อผ้าให้กัน กอดจูบกันอย่างโหยหา ผมได้เห็นสัดส่วนทุก ๆ อย่างของเธอ เธอสวยมาก เครื่องเพศของเธออวบอูมมาก ผมจับเธอนอนลงกับพื้นห้องทำงานแล้วจูบเธอตั้งแต่หน้าผาก เบ้าตา จมูก ลุหยุดอยู่ที่ปาก เธอกอดผมแน่น ทำให้การจูบของผมรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พอถอนลิ้นออกจากปากเธอได้ ผมก็เลียที่ใบและรูหูของเธอ เธอดิ้นพลาดด้วยความเสียว ผมได้ใจก็เลยเลียไปทั่วใบหน้าใบหู และซอกคอ ใต้คาง และลงมาจนหน้าอกคู่ใหญ่ของเธอ ผมใช้ฟันงับที่หัวนมสีชมพูสะอาดของเธอ เธอทั้งจิกและข่วนหัวไหล่และหลังผม เจ็บเหมือนกันครับ แต่ตอนที่เธอจิกเล็บและข่วนตามตัวผมมันให้ความรู้สึกที่เป็นสุขและยากจะ บรรยายจริง ๆ และผมก็ลากลิ้นลงมาถึงสะดือและลงมาที่เครื่องเพศของเธอ มันแฉะไปด้วยน้ำเมือกและมีกลิ่นที่รัญจวนใจบอกไม่ถูก งับและดูดติ่งของเธอ มือเธอจิกผมและบีบหัวของผมตลอด พอผมเงยหน้ามองเธอก็เห็นเธอหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข และปากก็เรียกชื่อผมอยู่ไม่ขาด เครื่องเพศผมก็แข็งจนปวดแล้ว ก็เลยจั บมันจ่อที่เครื่องเพศของเธอแล้วค่อย ๆ ดันเข้าไป มันไม่ได้หลวมอย่างที่คิดเลย กลับคับแน่น ผมใส่เข้าไปเฉพาะส่วนหัวแล้วชักออกดันเข้าจนมันลื่น ๆ ก็เลยดันเข้าไปมิดด้าม เธอผวากอดผมแน่น จิกเล็บที่ไหล่ทั้งสองข้างผมจนเจ็บ ผมดึงเอขึ้นมานั่งกอดกันจูบกันทั้ง ๆ ที่เครื่องเพศผมยังคาของเธออยู่ มันเป็นความรู้สึกที่เป็นสุขมาก คือตอนที่เราสอดเข้าไปสุดด้ามแล้วนั่งหันหน้าเข้ากันแล้วจูบกันแรง ๆ ได้สักพักผมก็เอามือสองข้างจับก้นเธอขยับเบา ๆ เธอกัดที่หัวไหล่ผมแรง ๆ แต่ตอนนี้ผมลืมความเจ็บไปแล้ว ผมนอนหงายแล้วกระแทกจากข้างล่าง เธอทำหน้าเหยเกเกร็งตัว แล้วก็ฟุบกับอกผม ผมจับใบหน้าเธอเงยขึ้นแล้วสบตากัน เธอบอกผมว่ามีความสุขมาก ๆ เลย ไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน ผมจูบปากเธอ พลิกให้เธอนอนหงาย จับขาเธอพาดบ่าแล้วผมนั่งยอง ๆ ที่ระหว่างขาเธอ สอดเครื่องเพศใส่ของเธอแล้วสอยถี่ ๆ จนได้ยินเสียงเครื่องเพศกระทบกันดัง แจะ ๆ ๆ ผมบอกเธอว่าใกล้เสร็จแล้ว เธอบอกว่าอย่าเอาออกข้างในนะกลัวท้อง ผมก็เลยดึงเครื่องเพศออกมาเธอคว้าใส่ปากแล้วดูดจนผมหลั่งในปากเธอ เธอกินน้ำผมจนไม่เหลือ หนำซ้ำยังเลียไปตามส่วนหัวและลำจนถึงอัณฑะอย่างไม่นึกรังกียจ ผมบอกตัวเองตอนนั้นเลยว่าผมรักเธอเข้าแล้วจริง ๆ เรานอนคุยกันตรงนั้น เธอหนุนหน้าอกผม จูบบ้างดูดตามหน้าอกหัวไหล่ จนตรงที่เธอจูบและดูดแดงเป็นจ้ำ ๆ เธอบอกว่าอยู่กับแฟนมา 18 ปี ไม่เคยมีความสุขอย่างนี้ และเครื่องเพศของแฟนเธอเล็กกว่าของผมหลายเท่านัก ไม่ถึงมดลูกด้วยซ้ำ แต่ของผมกระแทกมดลูกเธอตลอดเวลาใส่เข้าไป เธอถามผมว่ากลัวไหม ผมยังไม่ทันตอบเธอก็ชิงพูดว่า “นรกเป็นเรื่องหลังความตายจะมีจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ ถึงมีเราก็คงจำไม่ได้ แต่สิ่งที่เราจำได้และมีความสุขกับมันต่างหากคือสิ่งที่สำคัญ” ระหว่างคุยกันของผมก็ขึ้นอีก เธอก็เลยอมและดูดของผมอีกและก็ให้ผมนอนหงายเธอขึ้นคร่อมขย่มเบาๆ เสียงเครื่องเพศผมขัดกับมดลูกเธอดังในความรู้สึกขึดขัด ๆ ผมค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ทั้ง ๆ ที เครื่องเพศคาของเธออยู่ ให้เธอเอาขาสองข้างรัดเอวไว้ แขนกอดคอผมไว้ ผมสอยเธอจากข้างร่าง เธอร้องครางดังมากทั้งจิกทั้งเกร็ง ผมเอาเธอวางที่โต๊ะทำงาน โดยให้เธอเอาแขนยันไปด้านหลัง ให้ขาเธอพาดบ่าแล้วค่อยดึงเครื่องเพศออกจนหมดแล้วใส่เข้าไปใหม่ช้า ๆ เธอซี๊ดปากอย่างได้อารมณ์ และเกร็งตัวอีกครั้ง ผมก็ซอยเร็วขึ้น ๆ จนเสียวสุด ๆ และบอกเธอว่าจะออกแล้ว เธอก็มานั่งคุกเข่าอมและดูดเครื่องเพศผมจนหลั่งในปากเธออีกครั้ง ตอนที่เธอดูดกินน้ำของผม มีความรู้สึกเหมือนเธอดูดเอาเรี่ยวแรงของผมไปหมดตัวจริง ๆ หลังจากนั้นผมก็พาเธอไปอาบน้ำ ผมเปิดฝักบัวแล้วก็ถูสบู่ให้เธอ ซึ่งเธอก็ทำกับผมบ้าง อารมณ์ผมขึ้นอีกแล้ว พอเธอเห็นเครื่องเพศผมตื่น เธอก็ล้างตัวเราทั้งสองแล้วนั่งดูดและเลียเครื่องเพศให้ผม มันเสียวมากเลย จนผมทนไม่ไหวก็จับเธอยืนหันหน้าเข้าผนังงอนก้นขึ้นหน่อยและแยกขาออกนิด หน่อย ผมจับเครื่องเพศจ่อของเธอด้านหลังแล้วกดเข้าไปมิดด้าม มือก็จับนมเธอคลึงเบาๆ ค่อย ๆ กระเด่าช้า ๆ เป็นจังหวะ ได้สักพักเธอก็ก้มลงจับที่ขอบอ่างล้างหน้า โก่งโค้งตัวลงอีกหน่อย มือผมจับที่เอวเธอแล้วซอยไม่ยั้ง เห็นหน้าเธอในกระจกบูดเบี้ยวซีด ๆ บ้างในครั้งที่เธอเกร็งตัว พอใกล้จะหลั่งผมก็ดึงออกมา เธอรู้งานจริง ๆ อมและดูดกินน้ำผมจนหมด กว่าเธอจะได้กลับวันนั้นก็เกือบค่ำ เธอได้แต่บอกผมว่ามีความสุขมาก ไม่อยากให้ผมไปทำอย่างนี้กับใคร ดูเธอจะหวงผมมาก ซึ่งมารู้ใจตัวเองทีหลังผมก็รักและหวงเธอมากเหมือนกัน เธอบกผมว่าตอนแรก ๆ ที่มาหาผมนั้น คิดจะให้ช่วยเรื่องรายงาน เรื่องเรียน หรือติวให้ แต่พอนานวันเธอก็ลืมทุกอย่าง จำได้แต่ว่ารักผมจนเผลอคิดฆ่าสามีเธอทิ้ง ทุกวันนี้เรายังพบกันเกือบทุกวันและร่วมเพศกันทุกครั้งที่เจอ เอากันได้ทุกที่ เช่น ในรถ โรงแรม ฯลฯ จนทุกวันนี้ถ้าร่วมเพศกันผมต้องให้เธอกัดผมทุกครั้ง ไม่งั้นมันเหมือนขาดอะไรไปสักอย่าง บางครั้งเราไปทานข้าวด้วยกัน เราจะสั่งข้าวมาจานเดียวแล้วป้อนกัน เราป้อนเบียร์และผลไม้ทางปาก และทุกวันนี้เราสองคนยังหาทางออกชีวิตไม่เจอ ไม่รู้จะเป็นอย่างไรต่อไป แม้จะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ดีกับเราทั้งคู่ในแง่ศีลธรรมและเป็นตราบาปติด อยู่ในใจจนตาย แต่เราสองคนก็ได้แต่บอกกันและกันให้ซึบซาบเอาความรู้สึกดี ๆ ที่เกิดขึ้นไว้ในความทรงจำตลอดไป และเตรียมพร้อมที่จะยอมรับกับความจริงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างมั่นคง และ“จงมั่นใจเถอะว่าบาปจะตามหาเราจนเจอ”