เรื่องเสียว ครั้งเดียวไม่พอใจ
ขณะนั้นดิฉันมีอายุได้ ๑๓ ปีเต็มค่ะ เป็นเด็กร่างใหญ่อวบอัดผิวคล้ำเล็กน้อยและค่อนข้างจะเซ็กซ์จัดมากด้วย อย่างน้อยก็เดือนละครั้งสองครั้งที่มักจะฝันถึงเรื่องกามารมณ์ ว่าได้ถูกเพื่อนชายบางคนที่ชอบพอรักใคร่กอดจูบลูบคลำ จนกระทั่งน้ำแตกออกมาเลอะเทอะตูดก้นทุกที ผิดกับพี่สาวอายุ ๑๕ ปีชื่อ ฤดี ที่เอวบางร่างน้อย สูงเพรียวบาง ผิวขาละเอียดเหมือนพ่อ ซึ่งไม่มีท่าทีว่าจะเซ็กซ์จัดเหมือนดิฉันเลย
ตอนนั้นดิฉันอยู่ที่ตึกทรัพย์สินฯด้านซ้ายเชิงสะพานพุทธ ฝั่งพระนครค่ะ พอคุณพ่อเสียแล้ว คุณแม่ที่ร่ำรวยมากและยังสาว ทั้งมีตัณหาราคะจัดด้วย คงทนว้าเหว่ไม่ไหวจึงได้ออกเที่ยวเตร่หาความสุขของท่านไปตามเรื่องตามราวแทบทุกคืน จะกลับดึกๆดื่นๆตี ๒ ตี ๓ บางคืนก็หิ้วเด็กหนุ่มๆ พวกลิเกบ้างนักร้องบ้างมานอนค้างด้วย บางคืนไปนอนค้างที่ไหนไม่รู้ กว่าจะกลับก็เช้ารุ่งขึ้น ปล่อยให้ดิฉันกับพี่สาวและป้าหญิงผู้ดีตกยากที่ท่านจ้างมาอยู่เฝ้าบ้านเป็นเพื่อนอยู่กันไปตามเรื่องตามราว ซึ่งดิฉันก็เลยอพยพที่นอนหมอนมุ้งลงมานอนในห้องโถงชั้นล่าง เป็นเพื่อนป้าหญิงตลอดมา
ทีแรกๆ ก็รู้สึกเงียบเหงา พอ ๒ ทุ่มก็รีบปิดประตูนอนเพราะอยู่กันแต่ผู้หญิงกลัวโจรผู้ร้าย แต่แล้วก็กลับมีชีวิตชีวาขึ้นเมื่อลูกชายอายุ ๑๖ ปีของป้าหญิงที่อาศัยอยู่วัดอนงค์ ชื่อ ทิวา มาเยี่ยม แล้วป้าหญิงขอร้องให้มานอนเป็นเพื่อนด้วย เขาก็เลยมานอนเป็นประจำทุกคืนตลอดมา
ดิฉันกับพี่ฤดีถูกคอกับพี่ทิวามาก เพราะเขาเป็นคนช่างเล่นช่างคุย ทำให้สนุกสนานหายเงียบเหงา ทุกวันก็มีขนมนมเนยและไข่จืดไข่เค็มเหลือจากวัดมาฝากเยอะแยะจนกินไม่ไหว เราจึงเลื่อนเวลานอนไปถึง ๔-๕ ทุ่มทุกคืน โดยพี่ทิวาปูเสื่อกางมุ้งเล็กนอนขวางตรงปากประตูกันคนงัดแงะ
นานวันเข้า ดิฉันก็สังเกตเห็นว่ามันมีอะไรผิดแปลกเกิดขึ้นหลายอย่าง พี่ทิวาเล่นหยอกล้อขนาดปากว่ามือถึงกับพี่ฤดี บางทีถึงกับเล่นกอดปล้ำกันก็มี สำหรับส่วนดิฉันนั้นก็รู้สึกฝันเรื่องกามารมณ์ถี่ขึ้นกว่าเดิมมากจนผิดสังเกต เว้นคืนฝันเว้นสองคืนฝัน บางทีฝันติดๆกันก็มี แล้วทุกครั้งน้ำแตกเลอะเทอะตูดก้นนองไปหมดด้วย แต่ดิฉันกลับคิดไปว่าคงจะกินไข่จืดไข่เค็มมากเกินไป คืนละ ๒-๓ ฟองเป็นประจำ จึงทำให้เซ็กซ์จัดมากขึ้นกว่าเดิม
จนกระทั่งถึงคืนหนึ่ง อันเป็นคืนลอยกระทง เชิงสะพานพุทธคึกครื้นสนุกสนานมาก พี่ทิวาหายหน้าไปแต่หัวค่ำ ดิฉันกับพี่ฤดีออกไปเดินเที่ยวกันสัก ๕ ทุ่มกว่า พี่ฤดีก็บ่นง่วงนอนจึงพากันกลับไปนอนในมุ้งใหญ่ที่ป้าหญิงกางไว้ให้เรียบร้อยแล้ว และพี่ฤดีก็หลับสบายไป
ส่วนดิฉันหลับไม่ลงเพราะเสียงคนร้องรำทำเพลง ตีฉาบตีกลองผ่านหน้าบ้านอยู่เรื่อย จึงนอนฟังเขาและคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปจนสักชั่วโมงกว่าผ่านไปแล้วก็หลับตาทำท่าจะข่มให้หลับเสียที ตอนนี้ประตูก็เปิดออก แสงไฟภายนอกสาดเข้ามา ดิฉันเหลียวไปมองนึกว่าคุณแม่กลับแต่ไม่ใช่ กลายเป็นพี่ทิวาไป นึกจะร้องทักเขาแล้ว แต่พอนึกได้ว่าดึกแล้ว กลัวเขาจะชวนคุยเอะอะต่อไปจนดึกอีก เลยไม่ได้นอนกัน เลยนิ่งเสีย และก็เพราะการนิ่งเสียนี่สิค่ะมันเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ในเวลาต่อมา ซึ่งกลายเป็นประวัติโลกีย์ที่ติดตราตรึงใจดิฉันมาจนกระทั่งทุกวันนี้
เรื่องมันมีว่า พี่ฤดีนั่นปรกติเป็นเด็กที่นอนขี้เซาอย่างร้ายกาจพอๆกับดิฉันเหมือนกัน ลงได้หลับไปแล้วก็เหมือนตาย ใครจะทำอะไรหนักเบาอะไรเป็นไม่รู้สึกตัวเลย นอนรวดเดียวไปตื่นเอาสว่างทุกที แล้วทีนี้คืนนั้น ภายนอกมันสว่างมากกว่าปกติด้วยแสงไฟที่ลอดช่องลมบนประตูจึงสาดเข้ามา ทำให้มุ้งขาวสว่างเห็นพี่ฤดีนอนหงายกางขาหลับสบาย กรนฟี้ๆเบาๆอย่างถนัดชัดเจนยิ่งกว่าทุกคืน ดิฉันกำลังนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาพี่สาวในลักษณะคุดคู้เพราะอากาศเย็นจัดสักหน่อย ก็ได้ยินเสียงพี่ทิวาเขาคลานผ่านปลายตีนมุ้งไปเบาๆ มุ่งไปทางข้างมุ้งด้านพี่ฤดีนอน แลเห็นร่างเขาลางๆ คลานไปหยุดนั่งหมอบลงตรงข้างขาพี่ฤดี พอดิฉันเห็นเข้าอย่างนั้น ก็นึกรู้ทันทีว่าพี่ทิวาต้องรักพี่ฤดีแน่แล้ว ถึงกับยามนอนก็มาลอบมองดูข้างมุ้งเพราะความรัก
แต่ที่ไหนได้ละคะ มันทำให้หัวใจดิฉันเต้นตึ่บๆขึ้นมาอย่างขนานใหญ่ในทันทีทีเดียว เมื่อเห็นเขาค่อยๆเลิกมุ้งขึ้นแล้วสอดมือลอดล้วงเข้ามาคลำกลางหว่างขาของพี่ฤดี ซึ่งนุ่งผ้าถุงบางๆนอนหงายขาถ่างๆอยู่ คลำๆอยู่นิดหน่อยเพื่อให้แน่ใจว่าพี่ฤดีหลับสนิทไม่รู้สึกตัวแน่ แล้วจึงเลื่อนมือลงไปจับตีนผ้าถุงถลกเลิกขึ้นมาจนในหว่างขาเปิดโล่งหมด ไม่มีอะไรปิดบังเลย
พี่ฤดีคืนนั้นก็นอนโดยไม่ได้นุ่งกางเกงในเหมือนดิฉันเหมือนกัน ดังนั้นพอผ้าถูกเลิกขึ้นแล้ว ก็ไม่มีอะไรเหลือหรอละ มองเห็นโคกจิ๋มอูมนูนขึ้นมาลางๆได้ถนัด แล้วทีนี้มือของพี่ทิวาก็แปะจับลงไปที่จิ๋ม ลูบคลำเล่นไป เอานิ้วจกควักในรองจิ๋มไปๆมาๆอย่างสนุกมือ
ตอนนี้เอง จึงทำให้ดิฉันเริ่มนึกวาดเค้าของตัวเองได้ลางๆว่าอ้ายที่ฝันในเรื่องกามารมณ์ต่างๆนานาจนเสียวกระสันถึงกับน้ำแตกบ่อยๆแทบทุกคืนจนผิดสังเกตนั้น ก็เห็นจะเกิดจากมือพี่ทิวานี่เอง ลอบมาควักล้วงเล่นจิ๋มดิฉันอย่างที่เขากำลังทำกับพี่ฤดีอยู่ในเวลานี้ และสิ่งที่ทำให้แน่ใจว่าเป็นไปอย่างนั้นจริงๆ ก็เพราะปรากฏเสียงละเมอของพี่ฤดีเบาๆว่า
“อูย..จุ๊ ๆ ๆ ๆ ๆ…อู๊ย..อื้อ…”
แล้วก็เคี้ยวปากจั๊บๆ ทันทีนั้นก็มีทีท่าเหมือนเกิดความรู้สึกซ่านเสียว ยกแขนงอมากำไว้บนอกไหล่สั่นๆ หน้าเหยๆ ส่วนขาทั้งสองข้างกระตุกงอถ่างอ้าซ่าออกไปจากกัน ให้เขาควักล้วงได้เต็มที่ ซึ่งพี่ทิวาได้เลิกมุ้งสอดหัวเข้ามามองดูจิ๋มในหว่างขา แล้วเอานิ้วแยงล้วงเข้าในรูจิ๋มควานไปมา แล้วควักขึ้นแยงลง เสียงดังจุ๊บจั๊บ เฉาะแฉะ ยังกับน้ำแตกออกมาเลอะเทอะแล้วยังงั้นแหละ
โอย…เห็นเข้ายังงี้เด็กสาวรุ่นๆกำลังมันเริ่มจุกอกอย่างดิฉันจะทนได้ยังไงไหวเล่าคะ มันยั่วตัณหาราคะอย่างร้ายกาจที่สุดเลย ความอยากได้ประเดประดังเข้ามาจนแทบท่วมท้นหัวใจเลย ดิฉันต้องถึงกับขมิบจิ๋มตัวเองย่วบๆๆๆอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับน้ำแห่งความเสียวกระสันได้หยาดเยิ้มออกมานอกจิ๋มไม่ได้ขาด จนที่สุดเปรอะนองไหลเป็นทางลงไปใต้ท่อนขาตัวเอง
ดิฉันซ่านเสียวจนเหลือจะทนจริงๆแล้ว และก็ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจให้ดิฉันยกเท้าที่นอนขดตัวคุดคู้อยู่ไปวางที่มือพี่ทิวาซึ่งกำลังล้วงจิ๋มพี่ฤดีพอดี แล้วทำบิดตัวครางอือ พร้อมกับจิกหัวแม่เท้าเข้าไปตรงแคมจิ๋มพี่สาวที่นิ้วเขากำลังล้วงควานคารูจิ๋มอยู่ ผลก็คือทำให้มือที่กำลังขยุกขยิกของเขาหยุดชะงักลงนิ่งเฉย แต่ขณะนั้นอารมณ์อยากของดิฉันมันกระเจิดกระเจิงไปใหญ่แล้วจนยั้งไม่อยู่ นิ้วหัวแม่เท้าที่ดิฉันจิกเข้าไปจึงยิ่งกระดิกจิกง่ามจิ๋มพี่สาวที่นิ้วเขายังคาอยู่อย่างรุนแรงใหญ่เลย ไปตามอารมณ์อยากของตัวเอง
พี่ทิวาคงเข้าใจว่าดิฉันหลับและมีความต้องการทางโลกีย์แบบคนฝัน เมื่อเขาเห็นกิริยาอาการดิฉันเป็นเช่นนั้น จึงชักมือออกจากจิ๋มพี่สาวดิฉัน แล้วหลุบหัวชักแขนออกจากมุ้ง คลานไปทางปลายเท้าตรงก้นดิฉันนอนขดอยู่ แล้วเขาก็เลิกมุ้งหมอบคลานขยับเข้ามาทางก้น เอามือจับชายผ้าซิ่นที่ดิฉันนุ่งนอนด้วย ถลกขึ้นจนตูดดิฉันเปิดโล่งไปหมด แล้วจึงเอามือเข้ามาคลำจิ๋มดิฉันที่ปลิ้นเลอะเทอะน้ำเมือกออกไปทางใต้ตูด
เจ้าประคุณเอ๋ย…เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ก็เพิ่งได้รู้รสอร่อยของโลกีย์ในตอนนี้เอง พี่ทิวาเอานิ้วควักควานแหวกแคมจิ๋มที่ประกบบีบกันแน่นอยู่ ลงไปถึงใจกลางร่องแล้วก็ซอนไซหาปากรูจิ๋มจนพบ แล้วก็ไม่รอช้าล่ะทิ่มทะลวงปรู๊ดเข้าไปทีเดียวจนสุดนิ้วเลย เล่นเอาดิฉันสะดุ้งร้องครางเสียงกระเส่าสั่นว่า “โอย…อูย” พร้อมกับซี๊ดปาก แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตัวทำเป็นหลับอยู่ จึงแกล้งบิดตัวแล้วหยุดนิ่ง หายใจแรงๆเหมือนคนหลับ
เท่านั้นเองแหละค่ะ ดิฉันถึงกับเห็นสวรรค์ไรๆเลย เพราะในรูจิ๋มถูกเขาล้วงคว้านไปควานมา แล้วงอนิ้วควักออกมา ทำให้เสียวแทบเป็นบ้าเลย พอควักออกใกล้นิ้วจะหลุดปากรู แล้วก็กลับทะลวงเข้าไปใหม่อีก ทำแบบนี้อยู่ตั้งหลายครั้งหลายหน ดิฉันได้แต่ขมิบจิ๋มเพราะความเสียวและอร่อยอยู่เรื่อยไป น้ำจิ๋มก็ยิ่งแตกพลั่กๆออกมาจนนิ้วเขาลื่นเละไปหมดเลย มีเสียงดังพล็อกแพลกจนได้ยินถนัดชัดเจน ดิฉันลืมตัวไปชั่วระยะหนึ่ง ตั้งหน้าตั้งตาขบฟันกรอดๆหลับตาปี๋หน้าเหยเก และพอนึกได้ว่านิ้วหัวแม่ตีนยังก่ายจิกจิ๋มพี่สาวอยู่ กลัวเขาจะตื่นขึ้นมาจะเสียเส้นหมด เพราะกำลังได้รับความอร่อยจิ๋มอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ชั่วพักเดียว ดิฉันก็เริ่มมีอาการเกร็งตัวไปหมด ในรูจิ๋มก็ร้อนวูบวาบ ดูดนิ้วมือของพี่ทิวายวบๆ จากนั้นก็ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงมันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ และคงเป็นเพราะเสียงหายใจอย่างเหนื่อยหอบของดิฉัน จึงทำให้พี่ทิวาหยุดมือ แล้วก็ดึงนิ้วออก จากนั้นเขาก็คลานกลับไป ส่วนดิฉันก็หลับสบายเป็นตายไปทั้งคืน และนี่ก็คงเป็นอดีตที่ครั้งหนึ่งได้ประสบมากับตัวเอง
ขณะนั้นดิฉันมีอายุได้ ๑๓ ปีเต็มค่ะ เป็นเด็กร่างใหญ่อวบอัดผิวคล้ำเล็กน้อยและค่อนข้างจะเซ็กซ์จัดมากด้วย อย่างน้อยก็เดือนละครั้งสองครั้งที่มักจะฝันถึงเรื่องกามารมณ์ ว่าได้ถูกเพื่อนชายบางคนที่ชอบพอรักใคร่กอดจูบลูบคลำ จนกระทั่งน้ำแตกออกมาเลอะเทอะตูดก้นทุกที ผิดกับพี่สาวอายุ ๑๕ ปีชื่อ ฤดี ที่เอวบางร่างน้อย สูงเพรียวบาง ผิวขาละเอียดเหมือนพ่อ ซึ่งไม่มีท่าทีว่าจะเซ็กซ์จัดเหมือนดิฉันเลย
ตอนนั้นดิฉันอยู่ที่ตึกทรัพย์สินฯด้านซ้ายเชิงสะพานพุทธ ฝั่งพระนครค่ะ พอคุณพ่อเสียแล้ว คุณแม่ที่ร่ำรวยมากและยังสาว ทั้งมีตัณหาราคะจัดด้วย คงทนว้าเหว่ไม่ไหวจึงได้ออกเที่ยวเตร่หาความสุขของท่านไปตามเรื่องตามราวแทบทุกคืน จะกลับดึกๆดื่นๆตี ๒ ตี ๓ บางคืนก็หิ้วเด็กหนุ่มๆ พวกลิเกบ้างนักร้องบ้างมานอนค้างด้วย บางคืนไปนอนค้างที่ไหนไม่รู้ กว่าจะกลับก็เช้ารุ่งขึ้น ปล่อยให้ดิฉันกับพี่สาวและป้าหญิงผู้ดีตกยากที่ท่านจ้างมาอยู่เฝ้าบ้านเป็นเพื่อนอยู่กันไปตามเรื่องตามราว ซึ่งดิฉันก็เลยอพยพที่นอนหมอนมุ้งลงมานอนในห้องโถงชั้นล่าง เป็นเพื่อนป้าหญิงตลอดมา
ทีแรกๆ ก็รู้สึกเงียบเหงา พอ ๒ ทุ่มก็รีบปิดประตูนอนเพราะอยู่กันแต่ผู้หญิงกลัวโจรผู้ร้าย แต่แล้วก็กลับมีชีวิตชีวาขึ้นเมื่อลูกชายอายุ ๑๖ ปีของป้าหญิงที่อาศัยอยู่วัดอนงค์ ชื่อ ทิวา มาเยี่ยม แล้วป้าหญิงขอร้องให้มานอนเป็นเพื่อนด้วย เขาก็เลยมานอนเป็นประจำทุกคืนตลอดมา
ดิฉันกับพี่ฤดีถูกคอกับพี่ทิวามาก เพราะเขาเป็นคนช่างเล่นช่างคุย ทำให้สนุกสนานหายเงียบเหงา ทุกวันก็มีขนมนมเนยและไข่จืดไข่เค็มเหลือจากวัดมาฝากเยอะแยะจนกินไม่ไหว เราจึงเลื่อนเวลานอนไปถึง ๔-๕ ทุ่มทุกคืน โดยพี่ทิวาปูเสื่อกางมุ้งเล็กนอนขวางตรงปากประตูกันคนงัดแงะ
นานวันเข้า ดิฉันก็สังเกตเห็นว่ามันมีอะไรผิดแปลกเกิดขึ้นหลายอย่าง พี่ทิวาเล่นหยอกล้อขนาดปากว่ามือถึงกับพี่ฤดี บางทีถึงกับเล่นกอดปล้ำกันก็มี สำหรับส่วนดิฉันนั้นก็รู้สึกฝันเรื่องกามารมณ์ถี่ขึ้นกว่าเดิมมากจนผิดสังเกต เว้นคืนฝันเว้นสองคืนฝัน บางทีฝันติดๆกันก็มี แล้วทุกครั้งน้ำแตกเลอะเทอะตูดก้นนองไปหมดด้วย แต่ดิฉันกลับคิดไปว่าคงจะกินไข่จืดไข่เค็มมากเกินไป คืนละ ๒-๓ ฟองเป็นประจำ จึงทำให้เซ็กซ์จัดมากขึ้นกว่าเดิม
จนกระทั่งถึงคืนหนึ่ง อันเป็นคืนลอยกระทง เชิงสะพานพุทธคึกครื้นสนุกสนานมาก พี่ทิวาหายหน้าไปแต่หัวค่ำ ดิฉันกับพี่ฤดีออกไปเดินเที่ยวกันสัก ๕ ทุ่มกว่า พี่ฤดีก็บ่นง่วงนอนจึงพากันกลับไปนอนในมุ้งใหญ่ที่ป้าหญิงกางไว้ให้เรียบร้อยแล้ว และพี่ฤดีก็หลับสบายไป
ส่วนดิฉันหลับไม่ลงเพราะเสียงคนร้องรำทำเพลง ตีฉาบตีกลองผ่านหน้าบ้านอยู่เรื่อย จึงนอนฟังเขาและคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปจนสักชั่วโมงกว่าผ่านไปแล้วก็หลับตาทำท่าจะข่มให้หลับเสียที ตอนนี้ประตูก็เปิดออก แสงไฟภายนอกสาดเข้ามา ดิฉันเหลียวไปมองนึกว่าคุณแม่กลับแต่ไม่ใช่ กลายเป็นพี่ทิวาไป นึกจะร้องทักเขาแล้ว แต่พอนึกได้ว่าดึกแล้ว กลัวเขาจะชวนคุยเอะอะต่อไปจนดึกอีก เลยไม่ได้นอนกัน เลยนิ่งเสีย และก็เพราะการนิ่งเสียนี่สิค่ะมันเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ในเวลาต่อมา ซึ่งกลายเป็นประวัติโลกีย์ที่ติดตราตรึงใจดิฉันมาจนกระทั่งทุกวันนี้
เรื่องมันมีว่า พี่ฤดีนั่นปรกติเป็นเด็กที่นอนขี้เซาอย่างร้ายกาจพอๆกับดิฉันเหมือนกัน ลงได้หลับไปแล้วก็เหมือนตาย ใครจะทำอะไรหนักเบาอะไรเป็นไม่รู้สึกตัวเลย นอนรวดเดียวไปตื่นเอาสว่างทุกที แล้วทีนี้คืนนั้น ภายนอกมันสว่างมากกว่าปกติด้วยแสงไฟที่ลอดช่องลมบนประตูจึงสาดเข้ามา ทำให้มุ้งขาวสว่างเห็นพี่ฤดีนอนหงายกางขาหลับสบาย กรนฟี้ๆเบาๆอย่างถนัดชัดเจนยิ่งกว่าทุกคืน ดิฉันกำลังนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาพี่สาวในลักษณะคุดคู้เพราะอากาศเย็นจัดสักหน่อย ก็ได้ยินเสียงพี่ทิวาเขาคลานผ่านปลายตีนมุ้งไปเบาๆ มุ่งไปทางข้างมุ้งด้านพี่ฤดีนอน แลเห็นร่างเขาลางๆ คลานไปหยุดนั่งหมอบลงตรงข้างขาพี่ฤดี พอดิฉันเห็นเข้าอย่างนั้น ก็นึกรู้ทันทีว่าพี่ทิวาต้องรักพี่ฤดีแน่แล้ว ถึงกับยามนอนก็มาลอบมองดูข้างมุ้งเพราะความรัก
แต่ที่ไหนได้ละคะ มันทำให้หัวใจดิฉันเต้นตึ่บๆขึ้นมาอย่างขนานใหญ่ในทันทีทีเดียว เมื่อเห็นเขาค่อยๆเลิกมุ้งขึ้นแล้วสอดมือลอดล้วงเข้ามาคลำกลางหว่างขาของพี่ฤดี ซึ่งนุ่งผ้าถุงบางๆนอนหงายขาถ่างๆอยู่ คลำๆอยู่นิดหน่อยเพื่อให้แน่ใจว่าพี่ฤดีหลับสนิทไม่รู้สึกตัวแน่ แล้วจึงเลื่อนมือลงไปจับตีนผ้าถุงถลกเลิกขึ้นมาจนในหว่างขาเปิดโล่งหมด ไม่มีอะไรปิดบังเลย
พี่ฤดีคืนนั้นก็นอนโดยไม่ได้นุ่งกางเกงในเหมือนดิฉันเหมือนกัน ดังนั้นพอผ้าถูกเลิกขึ้นแล้ว ก็ไม่มีอะไรเหลือหรอละ มองเห็นโคกจิ๋มอูมนูนขึ้นมาลางๆได้ถนัด แล้วทีนี้มือของพี่ทิวาก็แปะจับลงไปที่จิ๋ม ลูบคลำเล่นไป เอานิ้วจกควักในรองจิ๋มไปๆมาๆอย่างสนุกมือ
ตอนนี้เอง จึงทำให้ดิฉันเริ่มนึกวาดเค้าของตัวเองได้ลางๆว่าอ้ายที่ฝันในเรื่องกามารมณ์ต่างๆนานาจนเสียวกระสันถึงกับน้ำแตกบ่อยๆแทบทุกคืนจนผิดสังเกตนั้น ก็เห็นจะเกิดจากมือพี่ทิวานี่เอง ลอบมาควักล้วงเล่นจิ๋มดิฉันอย่างที่เขากำลังทำกับพี่ฤดีอยู่ในเวลานี้ และสิ่งที่ทำให้แน่ใจว่าเป็นไปอย่างนั้นจริงๆ ก็เพราะปรากฏเสียงละเมอของพี่ฤดีเบาๆว่า
“อูย..จุ๊ ๆ ๆ ๆ ๆ…อู๊ย..อื้อ…”
แล้วก็เคี้ยวปากจั๊บๆ ทันทีนั้นก็มีทีท่าเหมือนเกิดความรู้สึกซ่านเสียว ยกแขนงอมากำไว้บนอกไหล่สั่นๆ หน้าเหยๆ ส่วนขาทั้งสองข้างกระตุกงอถ่างอ้าซ่าออกไปจากกัน ให้เขาควักล้วงได้เต็มที่ ซึ่งพี่ทิวาได้เลิกมุ้งสอดหัวเข้ามามองดูจิ๋มในหว่างขา แล้วเอานิ้วแยงล้วงเข้าในรูจิ๋มควานไปมา แล้วควักขึ้นแยงลง เสียงดังจุ๊บจั๊บ เฉาะแฉะ ยังกับน้ำแตกออกมาเลอะเทอะแล้วยังงั้นแหละ
โอย…เห็นเข้ายังงี้เด็กสาวรุ่นๆกำลังมันเริ่มจุกอกอย่างดิฉันจะทนได้ยังไงไหวเล่าคะ มันยั่วตัณหาราคะอย่างร้ายกาจที่สุดเลย ความอยากได้ประเดประดังเข้ามาจนแทบท่วมท้นหัวใจเลย ดิฉันต้องถึงกับขมิบจิ๋มตัวเองย่วบๆๆๆอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับน้ำแห่งความเสียวกระสันได้หยาดเยิ้มออกมานอกจิ๋มไม่ได้ขาด จนที่สุดเปรอะนองไหลเป็นทางลงไปใต้ท่อนขาตัวเอง
ดิฉันซ่านเสียวจนเหลือจะทนจริงๆแล้ว และก็ไม่รู้ว่าอะไรมาดลใจให้ดิฉันยกเท้าที่นอนขดตัวคุดคู้อยู่ไปวางที่มือพี่ทิวาซึ่งกำลังล้วงจิ๋มพี่ฤดีพอดี แล้วทำบิดตัวครางอือ พร้อมกับจิกหัวแม่เท้าเข้าไปตรงแคมจิ๋มพี่สาวที่นิ้วเขากำลังล้วงควานคารูจิ๋มอยู่ ผลก็คือทำให้มือที่กำลังขยุกขยิกของเขาหยุดชะงักลงนิ่งเฉย แต่ขณะนั้นอารมณ์อยากของดิฉันมันกระเจิดกระเจิงไปใหญ่แล้วจนยั้งไม่อยู่ นิ้วหัวแม่เท้าที่ดิฉันจิกเข้าไปจึงยิ่งกระดิกจิกง่ามจิ๋มพี่สาวที่นิ้วเขายังคาอยู่อย่างรุนแรงใหญ่เลย ไปตามอารมณ์อยากของตัวเอง
พี่ทิวาคงเข้าใจว่าดิฉันหลับและมีความต้องการทางโลกีย์แบบคนฝัน เมื่อเขาเห็นกิริยาอาการดิฉันเป็นเช่นนั้น จึงชักมือออกจากจิ๋มพี่สาวดิฉัน แล้วหลุบหัวชักแขนออกจากมุ้ง คลานไปทางปลายเท้าตรงก้นดิฉันนอนขดอยู่ แล้วเขาก็เลิกมุ้งหมอบคลานขยับเข้ามาทางก้น เอามือจับชายผ้าซิ่นที่ดิฉันนุ่งนอนด้วย ถลกขึ้นจนตูดดิฉันเปิดโล่งไปหมด แล้วจึงเอามือเข้ามาคลำจิ๋มดิฉันที่ปลิ้นเลอะเทอะน้ำเมือกออกไปทางใต้ตูด
เจ้าประคุณเอ๋ย…เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ก็เพิ่งได้รู้รสอร่อยของโลกีย์ในตอนนี้เอง พี่ทิวาเอานิ้วควักควานแหวกแคมจิ๋มที่ประกบบีบกันแน่นอยู่ ลงไปถึงใจกลางร่องแล้วก็ซอนไซหาปากรูจิ๋มจนพบ แล้วก็ไม่รอช้าล่ะทิ่มทะลวงปรู๊ดเข้าไปทีเดียวจนสุดนิ้วเลย เล่นเอาดิฉันสะดุ้งร้องครางเสียงกระเส่าสั่นว่า “โอย…อูย” พร้อมกับซี๊ดปาก แต่พอนึกขึ้นได้ว่าตัวทำเป็นหลับอยู่ จึงแกล้งบิดตัวแล้วหยุดนิ่ง หายใจแรงๆเหมือนคนหลับ
เท่านั้นเองแหละค่ะ ดิฉันถึงกับเห็นสวรรค์ไรๆเลย เพราะในรูจิ๋มถูกเขาล้วงคว้านไปควานมา แล้วงอนิ้วควักออกมา ทำให้เสียวแทบเป็นบ้าเลย พอควักออกใกล้นิ้วจะหลุดปากรู แล้วก็กลับทะลวงเข้าไปใหม่อีก ทำแบบนี้อยู่ตั้งหลายครั้งหลายหน ดิฉันได้แต่ขมิบจิ๋มเพราะความเสียวและอร่อยอยู่เรื่อยไป น้ำจิ๋มก็ยิ่งแตกพลั่กๆออกมาจนนิ้วเขาลื่นเละไปหมดเลย มีเสียงดังพล็อกแพลกจนได้ยินถนัดชัดเจน ดิฉันลืมตัวไปชั่วระยะหนึ่ง ตั้งหน้าตั้งตาขบฟันกรอดๆหลับตาปี๋หน้าเหยเก และพอนึกได้ว่านิ้วหัวแม่ตีนยังก่ายจิกจิ๋มพี่สาวอยู่ กลัวเขาจะตื่นขึ้นมาจะเสียเส้นหมด เพราะกำลังได้รับความอร่อยจิ๋มอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ชั่วพักเดียว ดิฉันก็เริ่มมีอาการเกร็งตัวไปหมด ในรูจิ๋มก็ร้อนวูบวาบ ดูดนิ้วมือของพี่ทิวายวบๆ จากนั้นก็ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงมันหายไปไหนหมดก็ไม่รู้ และคงเป็นเพราะเสียงหายใจอย่างเหนื่อยหอบของดิฉัน จึงทำให้พี่ทิวาหยุดมือ แล้วก็ดึงนิ้วออก จากนั้นเขาก็คลานกลับไป ส่วนดิฉันก็หลับสบายเป็นตายไปทั้งคืน และนี่ก็คงเป็นอดีตที่ครั้งหนึ่งได้ประสบมากับตัวเอง
พบกันใหม่ฉบับหน้านะคะ….บายยยย