ผมชื่อ xxx (ขอสงวนนาม) เป็นนักศึกษามหาวิทลัยปี 3 ผมเองเป็นคนที่มีนิสัยร่าเริงเกินเหตุออกไปทางเกรียนๆนั่นแหละครับ หลายคนรอบตัวผมจึงมีแต่เสียงหัวเราะเวลาผมพูดจาอะไรตลกๆ แต่นิสัยเกรียนของผมก็ไม่ได้ถูกใจทุกคนเสมอไป “พี่แอร์” สาวออฟฟิศซึ่งอายุราวๆ 30 ต้นๆ แต่หน้าตาเยาว์วัย+หุ่นสูง ขาว ของเธออ่อนกว่าวัยมากๆ อารมณ์เหมือนคนอายุสัก 22-23 ผมรู้จักพี่แอร์จากการไปฝึกงานที่บริษัทแห่งหนึ่ง พี่แอร์อยู่ในฝ่าย AE ซึ่งผมเองก็เข้ามาฝึกงานในฝ่ายนี้เช่นกัน ทุกครั้งที่ผมคุยหยอกล้อกับพี่ๆในฝ่ายทุกคนล้วนขำขันไปกับความไร้สาระของผม หลายๆคนเอ็นดูผมเป็นน้องรัก แต่กับพี่แอร์เธอไม่เคยฮาไปกับคำพูดผมสักนิด แถมบางครั้งยังคอยตำหนิผมเรื่องการทำงานอยู่บ่อยๆ ซึ่งจากที่สังเกตพฤติกรรมเฉยชาแบบนี้เกิดขึ้นเฉพาะกับผมเท่านั้น แต่กับ “พี่บอย” สุดหล่อประจำออฟฟิศไม่ว่านายคนนั้นจะพูดจาไร้สาระ หรือเกรียนแค่ไหน แต่ก็เรียกรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะจากพี่แอร์ได้ตลอด ผมซึ่งรู้สึกอึดอัดเวลาต้องไปทำงานกับพี่แอร์จึงได้แต่เก็บความคับแค้นใจไว้
และแล้ววันหนึ่งความร้อนลุ่มในจิตใจก็ถึงคราวปะทุออกมา โดยเหตุเกิดขณะไปทานอาหารกลางวันซึ่งผมก็ไปกับกลุ่มพี่แอร์รวม 6 คน วันนั้นอากาศร้อนมากๆด้วยความปากหมาของผม บวกกับความเกรียนที่อยากจะปล่อยมุขให้พี่แอร์ขำสักครั้ง ผมจึงพลั้งปากไปว่า
ผม : พี่ๆคร๊าบบบ ร้อนๆแบบนี้อยากได้อะไรกัน (ผมพูดลอยๆขณะนั่งทางข้าว)
พี่เป็ด : น้ำชาวเขียวเย็นๆสักแก้วก็ฟินแล้วจ๊ะ แล้ว xxx ล่ะอยากได้อะไร? น่าจะเป็นสาวๆสินะ
ผม : ผิดคร้าบบ ผมอยากได้”พี่แอร์”
ทันทีที่พูดจบทุกสายตาจ้องมองผม พร้อมสังเกตปฏิกิริยาพี่แอร์คู่กรณีที่โดนผมแซว เธอวางช้อนลงเนิบๆพร้อมตอบกลับมาว่า “น้อง xxx คะ? พี่ไม่ชอบเด็ก แล้วยิ่งเป็นเด็กไร้มารยาทอย่างน้อง ขาอ่อนพี่ก็อย่าหวังได้เห็นเลยชาตินี้” สิ้นสุดปลายเสียงจากพี่แอร์ ผมหัวร้อนๆ อาการคล้ายจะวูบ ความเงียบเข้าปกคลุมวงสนทนา ก่อนที่ทุกคนจะรีบทานก็จนเสร็จแล้วแยกย้ายไปทำงาน ผมรู้สึกได้ทันทีว่าโดนพี่แอร์เกลียดเข้าเต็มเปา และบอกกับตัวเองไว้ว่าจะไม่สุงสิงอะไรกับพี่สาวคนสวยอีกต่อไป
หลังจากวันนั้นผ่านไปอีกเดือนกว่าๆ ผมกลายเป็นเด็กฝึกงานที่เงียบ สงบเสงี่ยมลงอย่างเห็นได้ชัด ทุกคนในออฟฟิศต่างสังเกตได้ชัดเจนว่าผมน่าจะเฟลจากการโดนพี่แอร์ดุในครั้งนั้น พี่ๆหลายคนพยายามให้กำลังใจผมเพราะไม่อยากเห็นบรรยากาศอึมครึมอีกต่อไป
พี่เป็ด : xxx อย่าคิดมากน่า แอร์มันไม่มีอะไรหรอก
ผม : ครับ (ผมตอบพร้อมยิ้มแห้งๆ)
พี่เป็ด : เอ้อ ฝึกงานเสร็จเมื่อไหร่ล่ะ
ผม : อีก 2 อาทิตย์ครับ
พี่เป็ด : พอดีเลย อาทิตย์หน้าฝ่ายเรามีนัดไปชะอำกัน ไปด้วยนะ ถือว่าเลี้ยงส่ง xxx เลยแล้วกัน
ผม : ครับพี่
ผมแสดงออกว่าไม่ได้เป็นอะไรมากกับคำพูดของพี่แอร์ในครั้งนั้น แต่พี่ๆในแผนกผมทุกคนต่างดูออกว่าผม และพี่แอร์ เราทั้งคู่ไม่กินเส้นกันอย่างแรง และพี่แอร์ก็ไม่เคยมาขอโทษผมกับเหตุการณ์ครั้งนั้น ในใจผมพยายามปรับปรุงตัวเพราะคิดว่าความเกรียนของตนเองบางทีก็มากไป และพยายามทำตัวให้ดีที่สุดก่อนฝึกงานเสร็จ ซึ่งเมื่อถึงวันไปเที่ยวชะอำเราเหมารถตู้ไปกันทั้งสิ้น 10 คน ก็เฮฮาปาร์ตี้กันตามสไตล์ครับ ไปถึงที่พักก็บ่ายๆแก่ๆเพราะแวะนู่นนี่มาตลอดทาง กิจกรรมแรกคือการเล่นน้ำ และผมก็มีโอกาสใกล้ชิดพี่แอร์จากการเล่นบานาน่าโบ๊ทที่พี่แอร์นั่งหน้าสุด ส่วนผมนั่งอยู่รองสุดท้าย (มี 5 ที่) ทันทีที่ตกจากเรือกล้วย เราพยายามเกาะกลุ่มกันเพื่อรอเรือมารับเข้าฝั่ง จังหวะนั้นพี่แอร์เหมือนโดนคลื่นซัดมาชนผม ซึ่งผมก็ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะกลัวโดนด่าได้แต่บอกเบาๆว่า “ระวังครับ” พี่แอร์ทำเหมือนไม่ได้ยินก่อนพยามว่ายไปหาพี่ผู้หญิงอีกคน ผมเองไม่อยากจะเก็บมาคิดแต่ก็อดน้อยใจพี่แอร์ที่ไร้เยื่อใยไม่ได้ ความรู้สึกตอนนี้อยากจะรีบๆฝึกงานให้มันจบจะได้ไปจากที่นี่เสียที
พอเล่นน้ำกันเสร็จกิจกรรมยามค่ำคืนก็ไม่พ้นการทานอาหารปิ้งย่าง โดยมีแอลกอฮอร์เป็นส่วนประกอบสำคัญ ทุกคนดื่มกันอย่างเอาเป็นเอาตายเพราะเป็นการปลดปล่อยเต็มที่จากการทำงานหนักมาตลอด พี่แอร์ซึ่งดื่มไปไม่มากแต่เธอก็น่าจะเมาแล้วเพราะพูดไม่หยุด ยิงมุขที่ปัญญาอ่อนกว่าที่ผมเคยพูดอีก ผมเองซึ่งดื่มไปพอสมควรก็เผลอหัวเราะไปกับมุขพี่แอร์บ่อยครั้งเหมือนกัน
เวลาประมาณตี 1 กว่าๆ สมาชิกวงเหล้าเหลือเพียง 3 คน คือผม และพี่หนุ่ม กับพี่อาท เราดวลเหล้ากันต่อจนพี่หนุ่มขอหนีไปนอน ส่วนพี่อาทหลับคาวงเหล้า ผมพยามเรียกให้พี่อาทเข้าไปนอนในห้องแต่แกหมดสติไปแล้ว ผมจึงประคองร่างเดินไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้า แปลงฟัน เตรียมตัวนอน ทางเดินกลับห้องพักซึ่งเป็นบังกะโลเรียงกันเป็นตับๆ ยาวไปตลอดชายหาด ผมเดินผ่านบังกะโลหลังแล้วหลังเล่าเพราะของตัวเองอยู่ไกลพอสมควร ในแสงไฟสลัวๆผมได้ยิมเสียง”ว๊าก” แน่นอนมันคือเสียงอ้วกของใครสักคน ผมค่อยๆย่องไปแอบตามต้นมะพร้าวจึงเห็นพี่แอร์ยืนอ้วกอยู่ข้างบังกะโลที่นอนกับพี่หนิง พอแกอ้วกเสร็จแกก็เดินกลับจะเข้าที่พักแต่เหมือนแกจะเข้าไม่ได้ และพยามเคาะก่อนจะตัดใจทิ้งตัวลงนอนตรงโซฟาหน้าบังกะโล ผมเห็นแบบนั้นจึงผุดแผนชั่วเข้ามาในสมอง ด้วยฤทธิ์แอลกฮอร์+ความเมา+การดูหนังโป๊อันช่ำชอง และที่สำคัญความที่ผมน้อยใจพี่แอร์ซึ่งไม่เคยใยดีต่อตัวผมเอง ผมจึงรีบวิ่งกลับไปบังกะโลตนเองเพื่อหาอุปกรณ์ประกอบความคิดสัปดน ผมได้ เชือกที่ผูกกับหมอนข้างมา 1 เส้น , หน้ากากกันแสงไว้ใส่เวลานอน 1 อัน และสติ๊กเกอร์สำหรับใช้ในงานอีเวนท์ที่ติดกระเป๋าเป้มา ผมย่องมายังบังกะโลพี่แอร์ชนิดเงียบที่สุดก่อนจะหลบอยู่ใต้บันไดจนแน่ใจว่าทุกคนนอนหมดแล้ว ผมค่อยๆย่องขึ้นไปหาพี่แอร์
ผม : พี่แอร์ครับ พี่แอร์ (ผมลองเรียกพี่สาวเพื่อเทสสติสัมปชัญญะของเธอ)
…………………..เงียบครับ ผมลองยกแขนเธอขึ้นแล้วปล่อย ลองดันตัวเธอให้นอนลง พยามทำทุกทางเพื่อให้แน่ใจว่าพี่แอร์หลับลึกจากฤทธิ์เหล้า เมื่อมั่นใจผมค่อยดันตัวพี่แอร์ให้นอนคว่ำก่อนจะเอามือพี่แอร์ไขว้หลังแล้วใช้เชือกที่ได้จากหมอนข้างมัดเงื่อนตาย ก่อนจะนำหน้ากากกันแสงใส่ปิดตาเธอ และขั้นสุดท้ายคือสติ๊กเกอร์ปิดปาก ตอนนี้อุปกรณ์ทุกอย่างถูกนะมาใช้ครบถ้วน แต่แผนการของผมยังไม่เสร็จ ผมต้องนำตัวพี่แอร์ไปที่ที่มิดชิดกว่านี้ ด้วยความฉลาดของผม ผมใช้โทรศัพท์พิมพ์ภาษาคาราโอเกะในกูเกิลว่า “tar mai yak tai you ning ning” เมื่อกดให้กูเกิลสะกดคำมันจึงได้ออกมาเป็นคำว่า “ถ้าไม่อยากตายอยู่นิ่งๆ” ตอนนี้พี่แอร์มองไม่เห้นอะไรทั้งสิ้น แถมเสียงผมก็เป็นเสียงจากเทคโนโลยีสะกดคำ จึงไม่มีทางที่พี่แอร์จะคาดเดาตัวคนร้ายได้ ผมพยุงพี่แอร์ให้ลุกขึ้น ก่อนจะช้อนตัวพี่แอร์อุ้มมาที่ห้องพักของผมที่นอนคนเดียว (พี่อีกคนเมาหลับคาวงเหล้า) ผิดคาดครับพี่แอร์ไม่ได้สติเลย แผนการใช้เสียงในโทรศัพท์ข่มขู่จึงไม่ต้องงัดออกมาแต่อย่างใด
ผมวางพี่แอร์ลงบนเตียง ก่อนนั่งมองพี่แอร์ที่ผิวขาว ผมสีน้ำตาลอ่อนมัดปล่อยจะงอยลงมาด้านข้าง ส่วนชุดเป็นเสื้อยืดสีขาวรัดรูป ส่วนท่อนล่างเป็นกางเกงเลสีแดง ผมถลกเสื้อพี่แอร์ขึ้นจนเห็นบราสีขาว แต่ที่เด็ดกว่าคืออกขนาดพอดีมือที่อัดแน่นอยู่ในเสื้อใน ผมเอื้อมมือไปปลดตะขอออก มันหลุดผึงออกมาอย่างรุนแรง ดูเหมือนพี่สาวจะใส่เสื้อในตัวเล็กไปนะ หน้าอกพี่แอร์ขาวเนียนไปทั้งเต้า จุกหัวนมสีชมพู ผมไล่สายตาต่ำลงมาเห็นไรขนอ่อนๆจากสะดือลงไปด้านล่าง ผมไม่รอช้าดึงเชือกกางเกงเลของพี่แอร์ออกทั้งที ผ่าง!!!! พี่แอร์ไม่ใส่กางเกงใน อื้อหือ!!! ผมที่เตรียมตัวไปทีละสเต็ปไม่ทันตั้งตัวเลยจริงๆ เพราะไม่คิดว่าพี่แอร์จะไม่ใส่กางเกงใน แต่ก็เอาเถอะ ผมถอดกางเกพี่แอร์ออกจนล่อนจ้อน ก่อนจับขาแกแหกออกจนเห็นกลียที่มีขนขึ้นแซมหนาแน่น อารมณ์ตอนนี้เตลิดไปแล้วครับ ผมจัดการเปิดเบียร์สิงห์ขวดเล็กมาดื่ม พร้อมนั่งมองผลงานตัวเอง ก่อนจะใช้ปากขวดยัดเข้าไปในรูหอยพี่แอร์พร้อมดันเข้าดันออก เบียร์หกเลอะเทอะเต็มหอยพี่แอร์เลยครับ ผมรีบก้มไปเลียไปดูด มันอร่อยสุดๆครับ ผมดูดจนพี่แอร์เริ่มจะขยับตัว ผมรีบกระโจนไปหยิบโทรศัพท์ พี่แอร์เริ่มได้สติแกพยาลุกขึ้นผมอ้อมไปล็อคคอก่อนเปิดคลิปเสียง “ถ้าไม่อยากตายอยู่นิ่งๆ” พี่แอร์สงบลงก่อนจะตัวแข็งทื่อ เสียงอื้ออึงในลำคอรับรู้ได้ว่าแกกำลังร้องไห้ ผมเสียใจเหมือนกันนะอารมณ์นั้นแต่พอคิดถึงสิ่งที่แกทำกับผม ประกอบกับสภาพพี่แอร์ตอนนี้ที่มีเสื้อถลกอยู่เหนือนมขาวๆ ส่วนท่อนล่างขนฟูฟ่องปกคลุมตัดกับผิวขาวจั๋วมันทำให้ผมต้องทำอะไรต่อ ผมดันตัวพี่แอร์นั่งลงพร้อมจับแหกขา ก่อนจะงัดดุ้นออกมาก่อนยัดเขาไปในหอยอวบอูมมีขนแซมเต็มร่อง มันลื่มมากเลยครับ ผมซอยๆทันที ไม่รีรออะไรแล้ว ส่วนพี่แอร์ก็มีน้ำตาไหลพรากเต็ม 2 แก้ม ผมซอยจนใกล้เสร็จจึงรีบงัดออกมาปล่อยใส่หน้าพี่แอร์ เมื่อเสร็จกิจผมรีบใส่เสื้อผ้าก่อนพาตัวพี่แอร์ไปส่งยังบังกะโลของแก ผมให้แกนั่งที่โซฟาหน้าบังกะโล พร้อมมัดขาเพิ่ม สภาพพี่แอร์ที่แก้ผ้าไร้กางเกง ขนดกดำนอนอยุ่ที่โซฟา มันปลุกอารมณ์ผมอีกครั้ง ผมช่วยตัวเองทันทีก่อนจะไปแตกใส่บริเวณนมอวบๆ ก่อนจะใช้ทิชชู่ทำความสะอาดคราบน้ำกามจนหมดแล้วรีบวิ่งกลับบังกะโลทันที ผมล้างเนื้อล้างตัว ทำลายหลักฐานทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง แล้วรอเวลาเช้า สัก 6 โมงผมทำเนียนออกมาจากบังกะโล ก่อนเดินไปที่หน้า บังกะโล พี่แอร์ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม พี่แอร์นอนแก้ผ้าอยู่ที่โซฟา อาจจะเพราะความเพลีย+เมา สภาพพี่แอร์ตอนนี้สุดติ่งจริงๆครับ ผมวิ่งไปเคาะบังกะโลของพี่ๆทุกคน ให้มาดูพี่แอร์ ทุกคนตะลึงกับภาพพี่แอร์ก่อนช่วยกันแก้มัด พี่แอร์สลึมสลือตื่นมา แกรีบคว้ากางเกงเลมาใส่อย่างรวดเร็ว ใส่ผิดใส่ถูก พร้อมปล่อยโฮร้องไห้ ผมตีหน้าแบ๊วไม่รู้เรื่อง พี่แอร์คงอายสุดๆที่ทุกคนมาเห็นแกนอนแก้ผ้าไม่ได้สติแบบนี้ พี่ๆในแผนกถามว่าเกิดอะไรขึ้น พี่แอร์ไม่ตอบเอาแต่ร้องไห้ แต่แกก็ไม่ปริปากว่าแกโดนอะไรมาบ้างนะครับ เข้าใจว่าคงอายกลัวคนอื่นรู้ว่ามีชายปริศนาปล่อยน้ำใส่ทั้งหน้าและนม งานนี้ผมรอดตัวเพราะพี่แอร์ตัดสินใจไม่แจ้งความ ซึ่งคิดๆกลับไปผมละสะใจสุดๆไปเลยกับผู้หญิงอย่างพี่แอร์