อ่านเรื่องเสียว เรามาพนันถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นกันดีกว่า
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณช่วงใกล้สิ้นปี เป็นเวลาที่ผมมีความรู้สึกที่ดีมากๆ และยังแปลกใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ผมชื่อแก่ ผมทำงานเป็นเซลล์ขายอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์ และเป็นอาสาสมัครพัฒนางานสังคมของมูลนิธิแห่งหนึ่ง ผมได้รู้จักกับน้องคนหนึ่ง เธอชื่อเฟิร์น เธอเป็นลูกครึ่งไทยจีน บ้านจริงๆอยู่ที่ต่างจังหวัด แต่เข้ามาเรียนและทำงานในกรุงเทพฯ เฟิร์นก็เป็นอาสาสมัครพัฒนางานสังคมเหมือนกับผม จึงเป็นเหตุให้เราได้รู้จักกันเป็นอย่างดี ในฐานะพี่น้องพ้องเพื่อนที่ทำงานร่วมกัน เรารู้จักกันมาประมาณ 4 ปี ตั้งแต่เฟิร์นยังเรียนอยู่ปีหนึ่ง จนเฟิร์นเรียนจบแล้ว เธอก็เพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน ตอนนี้เฟิร์นก็อายุ 23 ปี ส่วนผม 26 ปี เฟิร์นยังไม่มีแฟน เพราะเธอชอบคิดว่าตัวเองไม่สวย จึงไม่กล้าตอบรับใคร แต่จริงๆแล้วผมว่าเฟิร์นก็เป็นคนน่ารักดี โดยเฉพาะนิสัยที่ดูซื่อๆ บริสุทธิ์ คิกขุ เป็นกันเองกับทุกคน ชอบช่วยเหลือคนอื่น หน้าตาเฟิร์นถึงจะไม่สวยเลิศเลอ แต่ก็จัดว่าใช้ได้ เหมาะกับผิวขาวๆ รูปร่างอวบนิดๆ กำลังดี คล้ายๆสาวญี่ปุ่น วันนั้นเป็นวันศุกร์ซึ่งต่างคนต่างก็เลิกงานมา เราก็เข้าไปช่วยงานอาสาตามปกติ แต่วันนั้นมีการวางแผนงานสำหรับโครงการปีหน้า กว่าจะได้กลับบ้านก็ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง ผมจำเป็นต้องให้เอกสารชิ้นหนึ่งกับเฟิร์น ซึ่งมันอยู่ที่บ้านผม ประจวบเหมาะกับทางกลับบ้านของเฟิร์นนั้น เลยบ้านผมไปอีกไกล ผมจึงอาสาไปส่งเฟิร์นที่บ้าน โดยจะแวะเอาเอกสารให้เธอด้วย จากนั้นผมก็บึ่งมอเตอร์ไซค์คันเก่งพาเธอกลับ โดยแวะไปเอาเอกสารที่บ้านผมก่อน บ้านผมเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้น และไม่ลิฟท์ซะด้วย กว่าจะขึ้นไปถึงห้อง เฟิร์นก็บ่นอุบว่าเมื่อยขา เพราะเธอไม่ได้อยู่อพาร์ทเม้นท์เหมือนผม ห้องผมเล็กมาก มีของอยู่ไม่มาก เข้าไปก็เห็นโต๊ะคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ตรงปลายเตียงนอน มีตู้เก็บเสื้อผ้าของใช้ติดกับห้องน้ำ เมื่อเฟิร์นเดินเข้าไปในห้องผม เธอก็พุ่งไปนอนแผ่หลาบนเตียงนอนผมด้วยความเมื่อยล้า ส่วนผมก็รีบเข้าไปเอาเอกสารในตู้ หายังไงก็ยังไม่เจอ ไม่รู้เอาไปเก็บไว้ไหน เมื่อเฟิร์นหายจากการเมื่อยล้าซักพัก เฟิร์นก็ถามผมว่า “ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของพี่มีเกมหรือปล่าว” ผมก็งงๆแล้วถามกลับไปว่า “ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ด้วยเหรอ” เฟิร์นก็ทำสีหน้าท้าทายแล้วบอกว่า “เฟิร์นนี้แหละ นักเล่นเกมตัวยงเลยล่ะ” ผมก็บอกเธอว่า “ก็เปิดดูสิ” ยังไม่ทันสิ้นเสียง เฟิร์นรีบรี่เข้าหาคอมพิวเตอร์ แล้วเปิดเครื่องอย่างคล่องแคล่ว ราวกับเป็นเครื่องที่บ้านของเธอเอง “โอ้โห! เกมเยอะแยะเลย” เสียงเธอสดใสเหมือนเด็กได้ของเล่น ระหว่างนั้นผมก็กำลังง่วนอยู่กับการหาเอกสาร “พี่แก่มาเล่นเกมด้วยกันดีกว่า เดี๋ยวค่อยหาก็ได้ เล่นคนเดียวไม่สนุกเลย” เสียงเธอตัดพ้อระหว่างที่เธอกำลังเล่นเกมส์ตีปิงปองอยู่กับคอมพิวเตอร์ ผมจึงพูดเชิงท้าทายเธอว่า “อย่าเล่นกับพี่เลย เดี๋ยวแพ้พี่ก็ยิ่งน่าเบื่อกันไปใหญ่” เฟิร์นหันกลับมาด้วยหน้าตาจริงจังกึ่งโมโห “ไม่มีทาง! เฟิร์นเล่นเก่งกว่าพี่แน่นอน ไม่เชื่อพนันกันก็ได้” ประโยคนี้เป็นจุดผกผันเลยทีเดียว ไม่รู้อะไรมากระตุ้นต่อมประสาทผมให้ตอบกลับไปทันควันว่า “เรามาพนันถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นกันดีกว่า ใครเปลือยหมดตัวก่อนแพ้” เฟิร์นผงะด้วยความตกใจแล้วอุทานเสียงดัง “บ้า! พนันอะไรแบบนั้น ใครจะให้ดูง่ายๆ” ก็ไม่รู้อะไรเข้าสิงผม “จริงๆแล้วกลัวแพ้ล่ะซิ แล้วบอกว่าแน่” ผมตอบกลับทันควันอีก โอ้เป็นไปได้! “ก็ได้! แน่จริงมาลองดูกันไปเลยว่าใครเก่งกว่า” เลือดนักสู้ของเฟิร์นทำให้ผมหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ รีบปรี่เข้าไปนั่งข้างเธอ รับคำท้าแล้วอธิบายกติกาอย่างเสร็จสรรพ “ใครแพ้หนึ่งลูก ต้องถอดเสื้อผ้าที่อยู่ในตัวหนึ่งชิ้น ชิ้นไหนก็ได้ ใครหมดตัวก่อนแพ้ แล้วต้องเลี้ยงข้าว 1 มื้อด้วย” “ได้เลย! พี่จะได้เปลื้องผ้าต่อหน้าผู้หญิงก็คราวนี้แหละ” เฟิร์นพูดอย่างท้าทาย ในใจผมกระสับกระส่ายบอกกับตัวเองว่าต้องชนะ! ต้องชนะ! จากที่ผมไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเฟิร์นมากกว่าความเป็นเพื่อน แต่เวลานี้จินตนาการมันล่องลอยไปถึงไหนต่อไหน จากนั้นเราก็เริ่มเล่นเกมแรกด้วยความเอาจริงเอาจังทั้ง 2 ฝ่าย เกมแรกเฟิร์นได้ออกเสียงหัวเราะดังลั่น “พี่แพ้แล้ว ถอดเลย ถอดซะดีๆ” ผมหน้าจ๋อย แต่ในใจกลับคิดว่า ดีเหมือนกันได้อวดของดีสาวๆก็คราวนี้ล่ะ “พี่ถอดกางเกงก่อนแล้วกัน เพราะอย่างน้อย ยังมีเสื้อมาคลุมกันโป้” น้ำเสียงตัดพ้อ แต่ในใจอยากถอดเต็มที “เช้อ! ใครจะไปอยากดูล่ะ” เธอตอบแบบเขินๆ ผมรีบถอดกางยีนส์ตัวเก่งออกอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเธอแสดงความเขินออกมาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อผมถอดกางเกงออกเหลือแต่เสื้อยืดที่บอกว่าจะกันโป้ได้ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่กันอะไรเลย เผยให้เฟิร์นเห็นเจ้าน้องชายของผม อัดแน่นอยู่ในกางเกงในสีขาวซึ่งดูเหมือนมันใกล้จะปริออกมา เธอหันรีหันขวางทำหน้าเอ๋อๆ “เล่นต่อดีกว่า” เฟิร์นพูดเสียงเครือๆ “เห้! พี่แพ้อีกแล้ว” เกมที่ 2 ผมแพ้อีก แต่ผมกลับดีใจอยู่ในใจ คราวนี้ล่ะตัดเชือก เฟิร์นหันมามองผมอายๆ ไม่พูดอะไรซักคำ “พี่ถอดกางเกงที่เหลือนะ ยังไงก็ยังมีเสื้อปิด” (เป็นข้ออ้างเดิมที่ไม่เอาไหน เพราะก็รู้อยู่ว่าห้ามเจ้าน้องชายไว้ไม่ได้แน่) สีหน้าเฟิร์นยิ่งตระหนก เมื่อได้เห็นเจ้าน้องชายผมเป็นดุ้นอ้วนใหญ่ชูชันเกินตัว “หว๋า..” เฟิร์นถึงกับร้องออกมาเบาๆอย่างไม่ตั้งใจ เธอเอี้ยวหน้าหนีแต่กลับเหลียวตามองดูเป็นระยะ ผมเดาว่าในใจเธอคงกระสับกระส่ายไปหมด ไม่รู้เหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร “โป๊ะเช๊ะ! ตาพี่บ้างล่ะ! ถอดเลย ถอดเลย” เกมที่3 เป็นคราวของผมจนได้ “พี่ ยอมให้ตานึงนะ น้า..” เธอรบเร้าไม่เป็นคำ “ไม่ได้ๆ กติกาต้องเป็นกติกา” “ก็ได้ๆ” เธอทำเสียงเครือๆ ผมไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เฟิร์นเลือกจะถอดกางเกงของเธอก่อน โดยใช้ข้ออ้างเดียวกับผม เธอค่อยๆ บรรจงถอดกางเกงสีดำสนิทของเธอ เผยให้เห็นผิวขาขาวอวบกำลังดี สีตัดกันอย่างชัดเจน เมื่อกางเกงดำสนิทของเธอหล่นลงถึงพื้น สายตาผมก็จับจ้องไปที่กางเกงชั้นในสีครีม มีลูกไม้ระบายบางเบาจนสามารถเห็นเส้นใยดำขลับอยู่ภายใน เจ้าน้องชายดุ้นอ้วนของผมก็เหงื่อไหลไคลย้อย กระดกขึ้นลงไม่เป็นจังหวะ เฟิร์นยิ้มเขินอายรีบนั่งลงไขว่ห้าง บดบังจุดมุ่งหมายของผมอย่างรวดเร็ว ทำเอาใจผมระทึกสะท้านไปหมด สายตายังไม่ลดละจากเรียวขาอวบสวย และบั้นท้ายที่รับกับองค์เอวที่ดูแล้วใช้ได้เลยทีเดียว “เฟิร์นนี่ก็เป็นคนหุ่นดีใช้ได้เลยนะ” ผมออกปากชมรูปร่างอวบน่ารัก ซึ่งผมไม่เคยสังเกตรูปร่างของเธอเลย เฟิร์นยังเขินไม่เลิก ได้แต่เหนียมอายไม่พูดอะไรซักคำ เกมที่4 “ฮ้าๆๆ ชนะอีกแล้ว” ผมตะโกนลั่นด้วยความดีใจ เฟิร์นอุทานไม่เป็นคำ เธอเขินบิดตัวหนีไปมาด้วยความอาย ทันใดนั้นเจ้ามือจอมซนของผมก็พุ่งไปที่กระดุมเสื้อเม็ดแรกของเธอ “ถอดเลย! ถอดเลย! ห้ามโกงนะ” พลางแกะกระดุมเสื้อเม็ดแรกออกทันที “เดี๋ยวๆ เฟิร์นถอดเอง” เธอปัดมือผมออกด้วยความเขินอาย “เฟิร์นถอดข้างในออกก่อนก็ได้ ยังไงก็ยังมีเสื้อปิดอยู่” เธอวิ่งไปมุมห้องหันหลังให้ผม ดึงเสื้อชั้นในสีครีมออกมาวางไว้ที่ปลายเตียงตรงที่เธอนั่ง สวรรค์โปรด! เจ้ากระดุมเม็ดที่ผมแกะไว้ยังเปิดอ้าอยู่ เผยให้เห็นเนินอกอิ่มสวยของเฟิร์น “ผมมีของดีอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้แต่ไม่เคยได้ใส่ใจ” ผมคิดพลางมองเนินอกอิ่มอย่างตั้งใจ “คอยดูนะ คราวนี้จบกัน พี่แพ้แน่นอน” เฟิร์นพูดออกมาเป็นประโยคแรก หลังจากที่เขินอยู่นาน “พี่เหลือชิ้นสุดท้ายแล้ว ยังไงก็แพ้เฟิร์นแน่ๆ” เหมือนเธอจะพูดปลอบใจตัวเอง เกมที่5 ผมมองไปที่เนินอกของเธออย่างหิวกระหาย พอๆกับเจ้าน้องชายดุ้นอ้วนที่ผงาดชูคออย่างไม่เกรงใจเฟิร์น “ถ..อ..ด..เ..ล..ย..” ผมเริ่มเป็นฝ่ายพูดไม่เป็นคำ “ไม่..เอา.. ไม่เอานะ..น้า….” เธอบอกปัด เบี่ยงตัวหนี เสียงเครือๆ ทำอะไรไม่ถูก ผมเข้ารุกล้ำทันที มือสองข้างพุ่งเป้าเข้าไปที่กระดุมเสื้อเม็ดต่อไป แล้วแกะกระดุมทีละเม็ดอย่างรวดเร็ว จนเฟิร์นไม่มีโอกาสตั้งตัว เธอได้แต่โวยไม่เป็นคำ เธอแอ่นตัวหนีผม แต่ไม่อาจหนีไปไหนได้ หัวนมเม็ดสีชมพูเหมือนพลอยเม็ดงาม ที่ตั้งอยู่บนเนินอกอิ่มสวยขนาดใหญ่ได้ที่ ชูชันท้าทายผมอยู่ใกล้ตาเพียงแค่คืบ “โอ้โห๋! พี่ไม่เคยเห็นใครหน้าอกสวยขนาดนี้เลย” ผมเสียงสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ “พี่อย่ามอง..อย่ามอง… เฟิร์นอาย..” เธอก็พูดระรัวไม่เป็นคำ เบี่ยงตัวหลบไปมาแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเจ้า 2 มือของผมก็จับแขน 2 ข้างของเธอไว้แน่น ตาก็จ้องมองอย่างไม่ลดละ เมื่อเฟิร์นเริ่มควบคุมสติได้ เธอก็ผละออกจากมือผม “เล่นให้จบเลย เกมสุดท้ายแล้ว” น้ำเสียงเธอดูลังเล เหมือนไม่มีความมั่นใจ ผมยิ่งมีกำลังใจมากขึ้นรีบหันกลับไปเล่นเกมต่อ เกมที่ 6 “แง..แง.. ไม่เอานะ..ไม่ยอมด้วย..” เฟิร์นพูดเสียงสั่นระรัวไม่เป็นคำทำอะไรไม่ถูก เมื่อรู้ว่าเธอคือผู้แพ้ ผมหันตัวเข้าไปหาเธอใกล้ๆ แววตาเป็นประกายแสดงความต้องการอย่างชัดเจน “ให้พี่ดูหน่อยนะ.. น่า..นะ..นิดเดียวเอง…” ผมวิงวอนอย่างจริงจัง ในเวลานั้นมือไม้ผมเริ่มรุกล้ำเข้าไปในกายเธอ มือทั้ง 2 ข้างของผมบีบจับหน้าขาทั้ง 2 ข้างของเธอไว้แน่นอย่างไม่ตั้งใจ เฟิร์นเอี้ยวตัวเบี่ยงหลบหลีกไปมา อากรับกริยาส่งให้เจ้าน้องชายดุ้นอ้วนของผม กระดกขึ้นลงอยู่ต่อหน้าเธออย่างไม่เป็นจังหวะ ตอนนี้มือทั้ง 2 ข้างของผม พยายามยื้อยุดดึงกางเกงชั้นในตัวน้อยของเฟิร์นออก “อ๊า..อย่าค่ะ..อย่าถอดเลย…” เธออุทานตัวอ่อนปวกเปียกทำอะไรไม่ถูก เธอนอนหงายหลับตาพริ้มหมดเรี่ยวแรง ปล่อยให้ผมถอดเจ้ากางเกงในตัวน้อยออกมาอย่างง่ายดาย กลีบดอกไม้สีชมพูสด ปริ่มน้ำเยิ้มได้ที่ เบ่งบานออกเหมือนจะเชื้อเชิญให้ผมได้ลิ้มรสเกสร เฟิร์นยังดูเหมือนเป็นอัมพาตเธอ นอนนิ่งบิดตัวไปมาเล็กน้อย ผมคงทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ผมโถมตัวเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว นิ้วมือขวาของผมล้วงลึก สำรวจร่องกลีบดอกไม้เยิ้มของเฟิร์นอย่างบ้าคลั่ง ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้ลำตัวเธอไปทั่วๆ ริมฝีปากผมก็ดูดดื่มหัวนมสีชมพูสวยของเฟิร์นอย่างเอร็ดอร่อย พลางเลื่อนมือมาบีบคลึงอกอวบของเธออย่างเมามัน ” โอ้ว! ซี..ด….อ้า..” เฟิร์นร้องครวญครางในลำคอ บิดลำตัวไปมาตอบรับปฏิกริยาของผมเช่นกัน มันยิ่งทำให้ผมตื่นเต้น เลือดลมสูบฉีดไม่เป็นจังหวะ เมื่อดูดหัวนมชมพูจนชื่นใจ ผมก็เลื่อนหน้าลงมาลิ้มรสกลีบดอกไม้เยิ้มของเฟิร์น พลางเอื้อมมือไม้บีบเค้นอกอวบอย่างเมามัน ลิ้นของผมแยงสำรวจเกสรกลีบเยิ้มสีชมพูสดอย่างลึกซึ้ง “อ้า…พี่แก่ขา..อย่าค่ะ..โอ้ว..” เฟิร์นบิดตัวไปมาแรงขึ้น ดูเหมือนปฏิเสธ แต่ปฏิกริยากลับตอบรับ เธอแอ่นกลีบเยิ้มเข้าหาริมฝีปากผม เพื่อให้เจ้าลิ้นจอมซนของผมเข้าไปให้ลึกที่สุด ผมรัวลิ้นจนเมื่อยไปหมด เฟิร์นก็ครางระงม ส่ายตัวไปมาตอบรับอย่างเมามัน เมื่อลิ้มรสกลีบเยิ้มจนพอใจ ก็เป็นเวลาของเจ้าน้องชายผมต้องทำความรู้จักกับเฟิร์นซักที ผมยกขาของเฟิร์นขึ้นสูง เผยให้กลีบดอกไม้แย้มบานออก ผมสอดตัวเข้าใต้ขาเธอ พร้อมทั้งจับเจ้าน้องชายดุ้นอ้วนยัดสอดใส่เข้าไปในกลีบดอกอย่างปราณีต “โอ้ว! อ๊า…!” เฟิร์นครางเสียงดังตอบรับ เจ้าน้องชายผมอัดแน่นอยู่ในกลีบดอกเยิ้มของเฟิร์น ผมเริ่มค่อยๆ ขยับเจ้าน้องชายเข้าออกเป็นจังหวะอย่างช้าๆ “อู้ส..” “อ้า…” “ซีด..” เป็นเสียงครางของเฟิร์นทุกจังหวะ ที่เจ้าน้องชายผมมันดันตัวเข้าไปจนสุดในกลีบเยิ้มของเธอ ผมยิ่งเพิ่มความเร็วเข้าออกอย่างเมามัน สีหน้าของเฟิร์นที่ดูเหมือนเจ็บปวดในตอนแรกเปลี่ยนไป กลายเป็นรอยยิ้มพริ้มอย่างมีความสุข และพลางโอดครวญไม่เป็นคำตามจังหวะ เมื่อได้ที่ ผมดึงเจ้าน้องชายออก พลางจับบั้นท้ายกลมกลึงของเฟิร์นพลิกตั้งขึ้น หน้าเธอซบอยู่กับที่นอน สองมือบีบกำที่นอนไว้แน่น ผมก็สอดยัดเจ้าน้องชายของผมเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้ซอยถี่ขึ้นอีกด้วยความมัน เฟิร์นก็ดันก้นกลมกลึงกระแทกกลับในทุกจังหวะ และร้องครางอย่างมีความสุข จนถึงวินาทีที่เธอร้องครางอย่างสุดเสียงเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ “โอ้ว..!! อ้า..พี่ขา..โอ๋ว…” เข่าเฟิร์นทรุดลงไปกองบนที่นอนเหมือนคนหมดเรี่ยวแรง เจ้าน้องชายผมก็ถูกเบ่งออกมาดิ้นพาดๆ ทั้งๆที่ยังไม่อยากเอาออก ผมรีบลุกขึ้นเปลี่ยนที่โดยเข้าไปนั่งอ้าซ่า อวดเจ้าน้องชายต่อหน้าต่อตาเธอใกล้เพียงคืบ “ช่วยพี่หน่อยสิจ๊ะ” ผมยื่นเจ้าน้องชายเข้าไปใกล้ริมฝีปากเฟิร์น สัญชาติญาณการเรียนรู้ของเฟิร์นรวดเร็วมาก เธอจับเจ้าน้องชายดุ้นอ้วนของผมใส่ปากของเธอ พลางดูดดื่มเหมือนเป็นไอศครีมแท่งแสนอร่อย “โอ้ว..อ้า…” เป็นผมบ้างล่ะที่ได้ครางเต็มที่ เฟิร์นรัวลิ้นไปมาอย่างรวดเร็ว สลับดูดดื่มเจ้าน้องชายผมอย่างเอร็ดอร่อย ยิ่งทำเธอก็ยิ่งเรียนรู้และชำนาญขึ้น ลิ้นของเฟิร์นเลียไล่จากปลายมาจนถึงโคน พลางลงไปทักทายดูดดื่มเจ้าไข่ประจำตัวผม เธอดูดดื่มอย่างเมามัน ผมใจสั่นไม่เป็นจังหวะเมื่อโดนรุกอย่างรวดเร็ว เธอกำเจ้าน้องชายของผมไว้ในมือทั้ง2ข้าง ชักเข้าออกเป็นจังหวะ สลับกับดูดดื่มและเลียอย่างเอร็ดอร่อย ทันใดนั้นผมก็ได้ขึ้นสวรรค์บ้าง เจ้าน้องชายของผมตัวบวมจนอั้นเอาไว้อีกไม่ได้ ทะลักน้ำสวาทออกมาเป็นลำยาวเข้าในปากของเฟิร์นหนึ่งจังหวะ เธอกลับไม่สนใจ แถมยังดูดดื่มอย่างเมามัน น้ำสวาททะลักออกมาอีกหลายจังหวะ ทำให้หน้าของเฟิร์นเปียกปอนเหมือนได้ทาครีมบำรุงผิว เธอเอาใบหน้าน่ารักของเธอคลุกเคล้ากับเจ้าน้องชายผมอย่างเมามัน จากนั้นทั้งผมและเฟิร์นก็นอนกองก่ายกัน ต่างคนต่างหมดเรี่ยวหมดแรง หลับไปไม่รู้เรื่อง กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตี3 วันนั้นเธอจึงนอนกับผมต่อจนเช้า เพราะวันต่อมาเป็นวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดพอดี วันเสาร์นั้นเราก็เลยเล่นเกมกันต่ออีกหลายเกม นี่จึงเป็นจุดก่อเกิดความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างเฟิร์นกับผม
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นประมาณช่วงใกล้สิ้นปี เป็นเวลาที่ผมมีความรู้สึกที่ดีมากๆ และยังแปลกใจว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง ผมชื่อแก่ ผมทำงานเป็นเซลล์ขายอุปกรณ์อิเล็กโทรนิคส์ และเป็นอาสาสมัครพัฒนางานสังคมของมูลนิธิแห่งหนึ่ง ผมได้รู้จักกับน้องคนหนึ่ง เธอชื่อเฟิร์น เธอเป็นลูกครึ่งไทยจีน บ้านจริงๆอยู่ที่ต่างจังหวัด แต่เข้ามาเรียนและทำงานในกรุงเทพฯ เฟิร์นก็เป็นอาสาสมัครพัฒนางานสังคมเหมือนกับผม จึงเป็นเหตุให้เราได้รู้จักกันเป็นอย่างดี ในฐานะพี่น้องพ้องเพื่อนที่ทำงานร่วมกัน เรารู้จักกันมาประมาณ 4 ปี ตั้งแต่เฟิร์นยังเรียนอยู่ปีหนึ่ง จนเฟิร์นเรียนจบแล้ว เธอก็เพิ่งเริ่มทำงานได้ไม่นาน ตอนนี้เฟิร์นก็อายุ 23 ปี ส่วนผม 26 ปี เฟิร์นยังไม่มีแฟน เพราะเธอชอบคิดว่าตัวเองไม่สวย จึงไม่กล้าตอบรับใคร แต่จริงๆแล้วผมว่าเฟิร์นก็เป็นคนน่ารักดี โดยเฉพาะนิสัยที่ดูซื่อๆ บริสุทธิ์ คิกขุ เป็นกันเองกับทุกคน ชอบช่วยเหลือคนอื่น หน้าตาเฟิร์นถึงจะไม่สวยเลิศเลอ แต่ก็จัดว่าใช้ได้ เหมาะกับผิวขาวๆ รูปร่างอวบนิดๆ กำลังดี คล้ายๆสาวญี่ปุ่น วันนั้นเป็นวันศุกร์ซึ่งต่างคนต่างก็เลิกงานมา เราก็เข้าไปช่วยงานอาสาตามปกติ แต่วันนั้นมีการวางแผนงานสำหรับโครงการปีหน้า กว่าจะได้กลับบ้านก็ประมาณ 3 ทุ่มครึ่ง ผมจำเป็นต้องให้เอกสารชิ้นหนึ่งกับเฟิร์น ซึ่งมันอยู่ที่บ้านผม ประจวบเหมาะกับทางกลับบ้านของเฟิร์นนั้น เลยบ้านผมไปอีกไกล ผมจึงอาสาไปส่งเฟิร์นที่บ้าน โดยจะแวะเอาเอกสารให้เธอด้วย จากนั้นผมก็บึ่งมอเตอร์ไซค์คันเก่งพาเธอกลับ โดยแวะไปเอาเอกสารที่บ้านผมก่อน บ้านผมเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 5 ชั้น และไม่ลิฟท์ซะด้วย กว่าจะขึ้นไปถึงห้อง เฟิร์นก็บ่นอุบว่าเมื่อยขา เพราะเธอไม่ได้อยู่อพาร์ทเม้นท์เหมือนผม ห้องผมเล็กมาก มีของอยู่ไม่มาก เข้าไปก็เห็นโต๊ะคอมพิวเตอร์ซึ่งอยู่ตรงปลายเตียงนอน มีตู้เก็บเสื้อผ้าของใช้ติดกับห้องน้ำ เมื่อเฟิร์นเดินเข้าไปในห้องผม เธอก็พุ่งไปนอนแผ่หลาบนเตียงนอนผมด้วยความเมื่อยล้า ส่วนผมก็รีบเข้าไปเอาเอกสารในตู้ หายังไงก็ยังไม่เจอ ไม่รู้เอาไปเก็บไว้ไหน เมื่อเฟิร์นหายจากการเมื่อยล้าซักพัก เฟิร์นก็ถามผมว่า “ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของพี่มีเกมหรือปล่าว” ผมก็งงๆแล้วถามกลับไปว่า “ชอบเล่นเกมคอมพิวเตอร์ด้วยเหรอ” เฟิร์นก็ทำสีหน้าท้าทายแล้วบอกว่า “เฟิร์นนี้แหละ นักเล่นเกมตัวยงเลยล่ะ” ผมก็บอกเธอว่า “ก็เปิดดูสิ” ยังไม่ทันสิ้นเสียง เฟิร์นรีบรี่เข้าหาคอมพิวเตอร์ แล้วเปิดเครื่องอย่างคล่องแคล่ว ราวกับเป็นเครื่องที่บ้านของเธอเอง “โอ้โห! เกมเยอะแยะเลย” เสียงเธอสดใสเหมือนเด็กได้ของเล่น ระหว่างนั้นผมก็กำลังง่วนอยู่กับการหาเอกสาร “พี่แก่มาเล่นเกมด้วยกันดีกว่า เดี๋ยวค่อยหาก็ได้ เล่นคนเดียวไม่สนุกเลย” เสียงเธอตัดพ้อระหว่างที่เธอกำลังเล่นเกมส์ตีปิงปองอยู่กับคอมพิวเตอร์ ผมจึงพูดเชิงท้าทายเธอว่า “อย่าเล่นกับพี่เลย เดี๋ยวแพ้พี่ก็ยิ่งน่าเบื่อกันไปใหญ่” เฟิร์นหันกลับมาด้วยหน้าตาจริงจังกึ่งโมโห “ไม่มีทาง! เฟิร์นเล่นเก่งกว่าพี่แน่นอน ไม่เชื่อพนันกันก็ได้” ประโยคนี้เป็นจุดผกผันเลยทีเดียว ไม่รู้อะไรมากระตุ้นต่อมประสาทผมให้ตอบกลับไปทันควันว่า “เรามาพนันถอดเสื้อผ้าทีละชิ้นกันดีกว่า ใครเปลือยหมดตัวก่อนแพ้” เฟิร์นผงะด้วยความตกใจแล้วอุทานเสียงดัง “บ้า! พนันอะไรแบบนั้น ใครจะให้ดูง่ายๆ” ก็ไม่รู้อะไรเข้าสิงผม “จริงๆแล้วกลัวแพ้ล่ะซิ แล้วบอกว่าแน่” ผมตอบกลับทันควันอีก โอ้เป็นไปได้! “ก็ได้! แน่จริงมาลองดูกันไปเลยว่าใครเก่งกว่า” เลือดนักสู้ของเฟิร์นทำให้ผมหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ รีบปรี่เข้าไปนั่งข้างเธอ รับคำท้าแล้วอธิบายกติกาอย่างเสร็จสรรพ “ใครแพ้หนึ่งลูก ต้องถอดเสื้อผ้าที่อยู่ในตัวหนึ่งชิ้น ชิ้นไหนก็ได้ ใครหมดตัวก่อนแพ้ แล้วต้องเลี้ยงข้าว 1 มื้อด้วย” “ได้เลย! พี่จะได้เปลื้องผ้าต่อหน้าผู้หญิงก็คราวนี้แหละ” เฟิร์นพูดอย่างท้าทาย ในใจผมกระสับกระส่ายบอกกับตัวเองว่าต้องชนะ! ต้องชนะ! จากที่ผมไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเฟิร์นมากกว่าความเป็นเพื่อน แต่เวลานี้จินตนาการมันล่องลอยไปถึงไหนต่อไหน จากนั้นเราก็เริ่มเล่นเกมแรกด้วยความเอาจริงเอาจังทั้ง 2 ฝ่าย เกมแรกเฟิร์นได้ออกเสียงหัวเราะดังลั่น “พี่แพ้แล้ว ถอดเลย ถอดซะดีๆ” ผมหน้าจ๋อย แต่ในใจกลับคิดว่า ดีเหมือนกันได้อวดของดีสาวๆก็คราวนี้ล่ะ “พี่ถอดกางเกงก่อนแล้วกัน เพราะอย่างน้อย ยังมีเสื้อมาคลุมกันโป้” น้ำเสียงตัดพ้อ แต่ในใจอยากถอดเต็มที “เช้อ! ใครจะไปอยากดูล่ะ” เธอตอบแบบเขินๆ ผมรีบถอดกางยีนส์ตัวเก่งออกอย่างรวดเร็ว สีหน้าของเธอแสดงความเขินออกมาอย่างเห็นได้ชัด เมื่อผมถอดกางเกงออกเหลือแต่เสื้อยืดที่บอกว่าจะกันโป้ได้ แต่จริงๆ แล้วก็ไม่กันอะไรเลย เผยให้เฟิร์นเห็นเจ้าน้องชายของผม อัดแน่นอยู่ในกางเกงในสีขาวซึ่งดูเหมือนมันใกล้จะปริออกมา เธอหันรีหันขวางทำหน้าเอ๋อๆ “เล่นต่อดีกว่า” เฟิร์นพูดเสียงเครือๆ “เห้! พี่แพ้อีกแล้ว” เกมที่ 2 ผมแพ้อีก แต่ผมกลับดีใจอยู่ในใจ คราวนี้ล่ะตัดเชือก เฟิร์นหันมามองผมอายๆ ไม่พูดอะไรซักคำ “พี่ถอดกางเกงที่เหลือนะ ยังไงก็ยังมีเสื้อปิด” (เป็นข้ออ้างเดิมที่ไม่เอาไหน เพราะก็รู้อยู่ว่าห้ามเจ้าน้องชายไว้ไม่ได้แน่) สีหน้าเฟิร์นยิ่งตระหนก เมื่อได้เห็นเจ้าน้องชายผมเป็นดุ้นอ้วนใหญ่ชูชันเกินตัว “หว๋า..” เฟิร์นถึงกับร้องออกมาเบาๆอย่างไม่ตั้งใจ เธอเอี้ยวหน้าหนีแต่กลับเหลียวตามองดูเป็นระยะ ผมเดาว่าในใจเธอคงกระสับกระส่ายไปหมด ไม่รู้เหตุการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร “โป๊ะเช๊ะ! ตาพี่บ้างล่ะ! ถอดเลย ถอดเลย” เกมที่3 เป็นคราวของผมจนได้ “พี่ ยอมให้ตานึงนะ น้า..” เธอรบเร้าไม่เป็นคำ “ไม่ได้ๆ กติกาต้องเป็นกติกา” “ก็ได้ๆ” เธอทำเสียงเครือๆ ผมไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง เฟิร์นเลือกจะถอดกางเกงของเธอก่อน โดยใช้ข้ออ้างเดียวกับผม เธอค่อยๆ บรรจงถอดกางเกงสีดำสนิทของเธอ เผยให้เห็นผิวขาขาวอวบกำลังดี สีตัดกันอย่างชัดเจน เมื่อกางเกงดำสนิทของเธอหล่นลงถึงพื้น สายตาผมก็จับจ้องไปที่กางเกงชั้นในสีครีม มีลูกไม้ระบายบางเบาจนสามารถเห็นเส้นใยดำขลับอยู่ภายใน เจ้าน้องชายดุ้นอ้วนของผมก็เหงื่อไหลไคลย้อย กระดกขึ้นลงไม่เป็นจังหวะ เฟิร์นยิ้มเขินอายรีบนั่งลงไขว่ห้าง บดบังจุดมุ่งหมายของผมอย่างรวดเร็ว ทำเอาใจผมระทึกสะท้านไปหมด สายตายังไม่ลดละจากเรียวขาอวบสวย และบั้นท้ายที่รับกับองค์เอวที่ดูแล้วใช้ได้เลยทีเดียว “เฟิร์นนี่ก็เป็นคนหุ่นดีใช้ได้เลยนะ” ผมออกปากชมรูปร่างอวบน่ารัก ซึ่งผมไม่เคยสังเกตรูปร่างของเธอเลย เฟิร์นยังเขินไม่เลิก ได้แต่เหนียมอายไม่พูดอะไรซักคำ เกมที่4 “ฮ้าๆๆ ชนะอีกแล้ว” ผมตะโกนลั่นด้วยความดีใจ เฟิร์นอุทานไม่เป็นคำ เธอเขินบิดตัวหนีไปมาด้วยความอาย ทันใดนั้นเจ้ามือจอมซนของผมก็พุ่งไปที่กระดุมเสื้อเม็ดแรกของเธอ “ถอดเลย! ถอดเลย! ห้ามโกงนะ” พลางแกะกระดุมเสื้อเม็ดแรกออกทันที “เดี๋ยวๆ เฟิร์นถอดเอง” เธอปัดมือผมออกด้วยความเขินอาย “เฟิร์นถอดข้างในออกก่อนก็ได้ ยังไงก็ยังมีเสื้อปิดอยู่” เธอวิ่งไปมุมห้องหันหลังให้ผม ดึงเสื้อชั้นในสีครีมออกมาวางไว้ที่ปลายเตียงตรงที่เธอนั่ง สวรรค์โปรด! เจ้ากระดุมเม็ดที่ผมแกะไว้ยังเปิดอ้าอยู่ เผยให้เห็นเนินอกอิ่มสวยของเฟิร์น “ผมมีของดีอยู่ใกล้ตัวขนาดนี้แต่ไม่เคยได้ใส่ใจ” ผมคิดพลางมองเนินอกอิ่มอย่างตั้งใจ “คอยดูนะ คราวนี้จบกัน พี่แพ้แน่นอน” เฟิร์นพูดออกมาเป็นประโยคแรก หลังจากที่เขินอยู่นาน “พี่เหลือชิ้นสุดท้ายแล้ว ยังไงก็แพ้เฟิร์นแน่ๆ” เหมือนเธอจะพูดปลอบใจตัวเอง เกมที่5 ผมมองไปที่เนินอกของเธออย่างหิวกระหาย พอๆกับเจ้าน้องชายดุ้นอ้วนที่ผงาดชูคออย่างไม่เกรงใจเฟิร์น “ถ..อ..ด..เ..ล..ย..” ผมเริ่มเป็นฝ่ายพูดไม่เป็นคำ “ไม่..เอา.. ไม่เอานะ..น้า….” เธอบอกปัด เบี่ยงตัวหนี เสียงเครือๆ ทำอะไรไม่ถูก ผมเข้ารุกล้ำทันที มือสองข้างพุ่งเป้าเข้าไปที่กระดุมเสื้อเม็ดต่อไป แล้วแกะกระดุมทีละเม็ดอย่างรวดเร็ว จนเฟิร์นไม่มีโอกาสตั้งตัว เธอได้แต่โวยไม่เป็นคำ เธอแอ่นตัวหนีผม แต่ไม่อาจหนีไปไหนได้ หัวนมเม็ดสีชมพูเหมือนพลอยเม็ดงาม ที่ตั้งอยู่บนเนินอกอิ่มสวยขนาดใหญ่ได้ที่ ชูชันท้าทายผมอยู่ใกล้ตาเพียงแค่คืบ “โอ้โห๋! พี่ไม่เคยเห็นใครหน้าอกสวยขนาดนี้เลย” ผมเสียงสั่นระรัวไม่เป็นจังหวะ “พี่อย่ามอง..อย่ามอง… เฟิร์นอาย..” เธอก็พูดระรัวไม่เป็นคำ เบี่ยงตัวหลบไปมาแต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะเจ้า 2 มือของผมก็จับแขน 2 ข้างของเธอไว้แน่น ตาก็จ้องมองอย่างไม่ลดละ เมื่อเฟิร์นเริ่มควบคุมสติได้ เธอก็ผละออกจากมือผม “เล่นให้จบเลย เกมสุดท้ายแล้ว” น้ำเสียงเธอดูลังเล เหมือนไม่มีความมั่นใจ ผมยิ่งมีกำลังใจมากขึ้นรีบหันกลับไปเล่นเกมต่อ เกมที่ 6 “แง..แง.. ไม่เอานะ..ไม่ยอมด้วย..” เฟิร์นพูดเสียงสั่นระรัวไม่เป็นคำทำอะไรไม่ถูก เมื่อรู้ว่าเธอคือผู้แพ้ ผมหันตัวเข้าไปหาเธอใกล้ๆ แววตาเป็นประกายแสดงความต้องการอย่างชัดเจน “ให้พี่ดูหน่อยนะ.. น่า..นะ..นิดเดียวเอง…” ผมวิงวอนอย่างจริงจัง ในเวลานั้นมือไม้ผมเริ่มรุกล้ำเข้าไปในกายเธอ มือทั้ง 2 ข้างของผมบีบจับหน้าขาทั้ง 2 ข้างของเธอไว้แน่นอย่างไม่ตั้งใจ เฟิร์นเอี้ยวตัวเบี่ยงหลบหลีกไปมา อากรับกริยาส่งให้เจ้าน้องชายดุ้นอ้วนของผม กระดกขึ้นลงอยู่ต่อหน้าเธออย่างไม่เป็นจังหวะ ตอนนี้มือทั้ง 2 ข้างของผม พยายามยื้อยุดดึงกางเกงชั้นในตัวน้อยของเฟิร์นออก “อ๊า..อย่าค่ะ..อย่าถอดเลย…” เธออุทานตัวอ่อนปวกเปียกทำอะไรไม่ถูก เธอนอนหงายหลับตาพริ้มหมดเรี่ยวแรง ปล่อยให้ผมถอดเจ้ากางเกงในตัวน้อยออกมาอย่างง่ายดาย กลีบดอกไม้สีชมพูสด ปริ่มน้ำเยิ้มได้ที่ เบ่งบานออกเหมือนจะเชื้อเชิญให้ผมได้ลิ้มรสเกสร เฟิร์นยังดูเหมือนเป็นอัมพาตเธอ นอนนิ่งบิดตัวไปมาเล็กน้อย ผมคงทนต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว ผมโถมตัวเข้าหาเธออย่างรวดเร็ว นิ้วมือขวาของผมล้วงลึก สำรวจร่องกลีบดอกไม้เยิ้มของเฟิร์นอย่างบ้าคลั่ง ส่วนมืออีกข้างก็ลูบไล้ลำตัวเธอไปทั่วๆ ริมฝีปากผมก็ดูดดื่มหัวนมสีชมพูสวยของเฟิร์นอย่างเอร็ดอร่อย พลางเลื่อนมือมาบีบคลึงอกอวบของเธออย่างเมามัน ” โอ้ว! ซี..ด….อ้า..” เฟิร์นร้องครวญครางในลำคอ บิดลำตัวไปมาตอบรับปฏิกริยาของผมเช่นกัน มันยิ่งทำให้ผมตื่นเต้น เลือดลมสูบฉีดไม่เป็นจังหวะ เมื่อดูดหัวนมชมพูจนชื่นใจ ผมก็เลื่อนหน้าลงมาลิ้มรสกลีบดอกไม้เยิ้มของเฟิร์น พลางเอื้อมมือไม้บีบเค้นอกอวบอย่างเมามัน ลิ้นของผมแยงสำรวจเกสรกลีบเยิ้มสีชมพูสดอย่างลึกซึ้ง “อ้า…พี่แก่ขา..อย่าค่ะ..โอ้ว..” เฟิร์นบิดตัวไปมาแรงขึ้น ดูเหมือนปฏิเสธ แต่ปฏิกริยากลับตอบรับ เธอแอ่นกลีบเยิ้มเข้าหาริมฝีปากผม เพื่อให้เจ้าลิ้นจอมซนของผมเข้าไปให้ลึกที่สุด ผมรัวลิ้นจนเมื่อยไปหมด เฟิร์นก็ครางระงม ส่ายตัวไปมาตอบรับอย่างเมามัน เมื่อลิ้มรสกลีบเยิ้มจนพอใจ ก็เป็นเวลาของเจ้าน้องชายผมต้องทำความรู้จักกับเฟิร์นซักที ผมยกขาของเฟิร์นขึ้นสูง เผยให้กลีบดอกไม้แย้มบานออก ผมสอดตัวเข้าใต้ขาเธอ พร้อมทั้งจับเจ้าน้องชายดุ้นอ้วนยัดสอดใส่เข้าไปในกลีบดอกอย่างปราณีต “โอ้ว! อ๊า…!” เฟิร์นครางเสียงดังตอบรับ เจ้าน้องชายผมอัดแน่นอยู่ในกลีบดอกเยิ้มของเฟิร์น ผมเริ่มค่อยๆ ขยับเจ้าน้องชายเข้าออกเป็นจังหวะอย่างช้าๆ “อู้ส..” “อ้า…” “ซีด..” เป็นเสียงครางของเฟิร์นทุกจังหวะ ที่เจ้าน้องชายผมมันดันตัวเข้าไปจนสุดในกลีบเยิ้มของเธอ ผมยิ่งเพิ่มความเร็วเข้าออกอย่างเมามัน สีหน้าของเฟิร์นที่ดูเหมือนเจ็บปวดในตอนแรกเปลี่ยนไป กลายเป็นรอยยิ้มพริ้มอย่างมีความสุข และพลางโอดครวญไม่เป็นคำตามจังหวะ เมื่อได้ที่ ผมดึงเจ้าน้องชายออก พลางจับบั้นท้ายกลมกลึงของเฟิร์นพลิกตั้งขึ้น หน้าเธอซบอยู่กับที่นอน สองมือบีบกำที่นอนไว้แน่น ผมก็สอดยัดเจ้าน้องชายของผมเข้าไปอีกครั้ง คราวนี้ซอยถี่ขึ้นอีกด้วยความมัน เฟิร์นก็ดันก้นกลมกลึงกระแทกกลับในทุกจังหวะ และร้องครางอย่างมีความสุข จนถึงวินาทีที่เธอร้องครางอย่างสุดเสียงเหมือนได้ขึ้นสวรรค์ “โอ้ว..!! อ้า..พี่ขา..โอ๋ว…” เข่าเฟิร์นทรุดลงไปกองบนที่นอนเหมือนคนหมดเรี่ยวแรง เจ้าน้องชายผมก็ถูกเบ่งออกมาดิ้นพาดๆ ทั้งๆที่ยังไม่อยากเอาออก ผมรีบลุกขึ้นเปลี่ยนที่โดยเข้าไปนั่งอ้าซ่า อวดเจ้าน้องชายต่อหน้าต่อตาเธอใกล้เพียงคืบ “ช่วยพี่หน่อยสิจ๊ะ” ผมยื่นเจ้าน้องชายเข้าไปใกล้ริมฝีปากเฟิร์น สัญชาติญาณการเรียนรู้ของเฟิร์นรวดเร็วมาก เธอจับเจ้าน้องชายดุ้นอ้วนของผมใส่ปากของเธอ พลางดูดดื่มเหมือนเป็นไอศครีมแท่งแสนอร่อย “โอ้ว..อ้า…” เป็นผมบ้างล่ะที่ได้ครางเต็มที่ เฟิร์นรัวลิ้นไปมาอย่างรวดเร็ว สลับดูดดื่มเจ้าน้องชายผมอย่างเอร็ดอร่อย ยิ่งทำเธอก็ยิ่งเรียนรู้และชำนาญขึ้น ลิ้นของเฟิร์นเลียไล่จากปลายมาจนถึงโคน พลางลงไปทักทายดูดดื่มเจ้าไข่ประจำตัวผม เธอดูดดื่มอย่างเมามัน ผมใจสั่นไม่เป็นจังหวะเมื่อโดนรุกอย่างรวดเร็ว เธอกำเจ้าน้องชายของผมไว้ในมือทั้ง2ข้าง ชักเข้าออกเป็นจังหวะ สลับกับดูดดื่มและเลียอย่างเอร็ดอร่อย ทันใดนั้นผมก็ได้ขึ้นสวรรค์บ้าง เจ้าน้องชายของผมตัวบวมจนอั้นเอาไว้อีกไม่ได้ ทะลักน้ำสวาทออกมาเป็นลำยาวเข้าในปากของเฟิร์นหนึ่งจังหวะ เธอกลับไม่สนใจ แถมยังดูดดื่มอย่างเมามัน น้ำสวาททะลักออกมาอีกหลายจังหวะ ทำให้หน้าของเฟิร์นเปียกปอนเหมือนได้ทาครีมบำรุงผิว เธอเอาใบหน้าน่ารักของเธอคลุกเคล้ากับเจ้าน้องชายผมอย่างเมามัน จากนั้นทั้งผมและเฟิร์นก็นอนกองก่ายกัน ต่างคนต่างหมดเรี่ยวหมดแรง หลับไปไม่รู้เรื่อง กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็ตี3 วันนั้นเธอจึงนอนกับผมต่อจนเช้า เพราะวันต่อมาเป็นวันเสาร์ซึ่งเป็นวันหยุดพอดี วันเสาร์นั้นเราก็เลยเล่นเกมกันต่ออีกหลายเกม นี่จึงเป็นจุดก่อเกิดความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างเฟิร์นกับผม